จากกรณีพายุโคอินุพัดถล่มชัยภูมิฝนตกระหน่ำบนเทือกเขาพังเดหยและเทือกเขาภูแลนคาซ้ำอีก ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลลงแม่น้ำชีที่กำลังทะลักท่วมใน 3 อำเภอของชัยภูมิและยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงง่ายๆ โดยเมื่อบ่ายวันที่ 6 ต.ค.66 ปภ.จังหวัดชัยภูมิได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชน อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส อ.เมืองชัยภูมิ อ.เนินสง่า และ อ.คอนสวรรค์ ให้เฝ้าระวังแม่น้ำชีล้นตลิ่งไหลทะลักน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ฉับพลัน

เนื่องจากขณะเกิดฝนตกหนักมาตลอดทั้งวันทั้งคืนบนเทือกเขาพังเหย เทือกเขาภูแลนคาและเทือกเขาภูเขียว ที่เป็นแหล่งต้นน้ำแม่น้ำชี ซึ่งขระนี้พบว่าน้ำในแม่น้ำชีมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง จากมีฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอหนองบัวแดง เมื่อวันที่ 2-5 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

จึงขอให้ประชาชนตามตำบล อำเภอต่างๆที่มีบ้านเรือนใกล้ริมแม่น้ำชีได้เตนรียมเก็บข้าวของมีค่าและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกนั้นจังหวัดชัยภูมิได้สั่งการให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ กำลังคน พร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

ล่าสุดสำหรับสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พบว่าน้ำในแม่น้ำชียังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เรือกสวนไร่นาพื้นที่การเกษตรต่อเนื่องและไม่มีทีท่าจะลดลงง่ายๆ กรมโยธาธิการและผังเมืองชัยภูมิ ได้ส่งเรือกำจัดผักตบชวาลำใหญ่พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เดินทางมาถึงบึงละหานแล้ว พร้อมเดินหน้ากำจัดวัชพืช ซึ่งมีจำนวนมาหาศาลในบึงละหาน เพื่อไม่ให้ไหลลงไปปิดทางน้ำในลำแม่น้ำชี

โดย น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายเมธี พัฒนกันต์ รักษาราชการแทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชัยภูมิ ได้ไปเยี่ยมการขนย้ายเรือกำจัดผักตบชวา ที่ขอรับการสนับสนุนไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อนำมากำจัดผักตบชวาในบึงละหาน เป็นอีกแนวหนึ่งในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำชี

ซึ่งกำลังท่วมหนักในพื้นที่ 2 อำเภอ คืออำเภอเมืองชัยภูมิ บ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย และอำเภอจัตุรัส หลายหมู่บ้านในตำบลส้มป่อย ตำบลละหาน และตำบลหนองบัวบาน ต้องหาวิธีบริหารจัดการให้น้ำที่ขังอยู่ลดระดับลงให้เร็วที่สุด

แต่ติดปัญหาในเรื่องของวัชพืชจำนวนมาก ไหลตามลำน้ำชี มารวมกันกับที่ไหลออกจากบึงละหาน บึงขนาดใหญ่เนื่องที่ 1หมื่นกว่าไร่ มีวัชพืชเกิดขึ้นสะสมหลายร้อยตัน ทำให้เกิดการอุดตันท่อระบายน้ำ คอสะพานต้องระดมรถแบ๊คโฮลด์ จากหน่วยงานต่างๆ เร่งกำจัดอย่างเร่งด่วน

โดยน.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่าต้องขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่ให้การสนับสนุนภารกิจนี้ ซึ่งจะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เนื่องจากระดับน้ำท่วมขังยังคงทรงตัวและบางจุดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการอุดตันของวัชพืช ตามทางระบายน้ำ ในลำน้ำชี ซึ่งเรือกำจัดผักตบชวาลำนี้จะเริ่มทำงานในวันนี้ (5 ต.ค.66) สามารถกำจัดผักตบชวาได้เที่ยวละประมาณ 30 ตัน ลักษณะสับย่อยเก็บไว้ใต้ท้องเรือ เมื่อเต็มลำเรือก็จะนำมาถ่ายเทริมฝั่งน้ำ ให้รถตักขึ้นรถบรรทุกไปกำจัดอีกครั้ง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อให้ภารกิจลุล่วงไปได้รวดเร็ว

ขณะที่การทำงานด้านอื่นๆก็ทำไปพร้อมกันทั้งเรื่องการสำรวจความเสียหาย การมอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์ เฝ้าระวังภัยที่มากับน้ำ ซึ่งจากข้อมูล ปภ.จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งสิ้น 7 อำเภอ เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 3 อำเภอ ขณะนี้ยังคงน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ 6 ตำบล 234 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายไปแล้วกว่า3หมื่นไร่ จังหวัดประกาศพื้นที่ประสบสาธรรณภัยและเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 3 อำเภอ

สมศักดิ์ ชุ่มหมื่นไวย์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews