วันที่ 17 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดชัยภูมิ เกิดพายุกระหน่ำน้ำป่าสีแดงขุ่นไหลทะลักท่วมหมู่บ้านใน 3 อำเภอ เสียหายหนัก 3 ชีวิตรอดตายหวุดหวิด ผู้ว่าฯต้องประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนฉับพลันตลอด24ชั่วโมง

โดยชัยภูมิพายุกระหน่ำน้ำป่าสีแดงขุ่นไหลทะลักท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านในเขตพื้นที่ อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน ลุง 59 ปี เผยนาทีน้ำหลากใช้สายยางรัดตัวกับเสาบ้านรอดตายหวุดหวิด ผู้ว่าฯ ต้องประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนฉับพลันตลอด24ชั่วโมง โดยเฉพาะในเขตอ.เทพสถิต อ.เมืองใต้เขื่อนลำประทาวและปชช.ในเขตอำเภอบำเหน็จณรงค์ ที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อนลำคันฉูเตรียมพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่งหรือน้ำหลากน้ำท่วมเฉียบพลันเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ในระหว่างวันที่16-22 ก.ย.66 นี้

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 16 กย.66 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ ได้มีฝนตกลงมาอย่างรุนแรง น้ำให้มีน้ำป่าจากเทือกเขาพญาฝ่อ และเทือกเขาพังเหย ไหลบรรจบกันน้ำป่าสีแดงขุนที่ไหลลงจากเขาจำนวนมากได้พัดเอาท่อไม้ท่อซุงไหลลงจากเขา ลงสู่พื้นที่ราบ ทะลักเข้าท่วมบ้านวังใหญ่ ตำบลวังทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ เข้าท่วมบ้านเรือนชาวประชาชนและพื้นที่ทำการเกษตรอย่างรวดเร็วส่งผลทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 40 ครัวเรือน

นอกจากนี้น้ำป่าจำนวนดังกล่าวยังไหลหลากได้กัดเซาะถนน ซัดบ้านเรือนประชาชนและรถยนต์รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเสียหายและสูญหายไปกับกระแสน้ำ นอกจากนี้น้ำป่าไหลหลากยังไหลเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะครอบครัวของนาย ประจวบ มะลิลำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 4 บ้านวังใหญ่ ตำบลวังทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ ที่มีบ้านเรือนอยู่ด้ายล่างติดเทือกเขาพญาฝ่อ กระแสน้ำป่าสีแดงขุนไหลลงจากเขาพร้อมท่อซุงเศษทะลักเข้าซัดบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย ในช่วงกลางดึก 3 คนพ่อแม่ลูกต้องเอาเชือกพูกร่างกายไว้กับตัวบ้าน จึงเอาชีวิตรอดดมาได้หวุดหวิด

ล่าสุด นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่อำเภอภักดีชุมพล อำเภอบำเหน็จณรงค์และอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้เฝ้าระวังรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งได้มีฝนตกในพื้นที่อ่างเก็บลำปะทาวบน และอ่างเก็บน้ำลำปะทาวล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่างเก็บน้ำลำปะทาวล่างมีระดับน้ำล้น Spilway สูง30 ซ.ม.และมีน้ำไหลเข้าสู่อ่างอย่างต่อเนื่อง

จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำลงในเขตสองฝั่งลุ่มน้ำลำปะทาว ไหลเข้าสุ่เขตอำเภอเมืองชัยภูมิ ระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2566 โดยมีพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

ทางด้าน นางสาวอัจฉรา อาษาสู้ นายอำเภอภักดีชุมพลได้นำเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ที่เกิดความเสียหายขึ้นในพื้นที่ พร้อมกับให้สำรวจความความเสียหายแล้ว พบว่า.มีชาวบ้านที่ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ คือ หมู่ที่ 4 ต.วังทอง จำนวน 34 หลัง หมู่ที่ 5 ต.วังทอง จำนวน 2 หลัง หมู่ 11 ต.วังทอง จำนวน 1 หลัง โดยทางอำเภอได้จัดตั้งหน่วยบริการประชาชน ที่บ้านวังใหญ่ ม.4 ต.วังทอง อ.ภักดีชุมพล เพื่อรับลงทะเบียนผู้ประสบภัยเพิ่มเติม และเป็นจุดรับของเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตามระเบียบต่อไป

ทั้งนี้ นายปัญญา จินดาวงค์ นายอำเภอเทพสถิต พร้อมด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนัน ผญบ.ฯ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย จากเหตุฝนตกหนักในพื้นที่เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ย.66 น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและท่วมถนนสัญจร ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายได้แก่ ม.2 ต.โป่งนก บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 5 ครัวเรือน น้ำท่วมลาดถนนสัญจรในหมู่บ้าน ม.6, ม.14 ต.บ้านไร่, ม.13 ต.โป่งนก น้ำท่วมถนนเข้าพื้นที่การเกษตรและพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่ใน 5 ตำบล ในการนี้ อำเภอเทพสถิตจะเร่งสำรวจความเสียหายที่ชัดเจน/แจ้ง อปท.ให้ความช่วยเหลือราษฎร

ข่าวโดย สมศักดิ์ ชุ่มหมื่นไวย์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews