วันที่ 14 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการประสานจากนางสาวจุฬารัตน์ เผ่าผม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ.สวนสวรรค์ ต.โคกภู อ.ภูพาน จ.สกลนคร ว่า มีลูกบ้านที่เป็นสามีภรรยากันร้องเรียนว่า ภรรยาไปคลอดลูกแฝดที่โรงพยาบาล แต่กลับได้ลูกสาวมาแค่คนเดียว ทั้งที่ที่ผ่านมา หมออัลตราซาวด์และบอกว่าได้ลูกแฝด จนครอบครัวตื่นเต้นจัดเตรียมของและสถานที่รอรับลูกแฝดด้วยความดีใจ แต่ถึงกำหนดคลอดกลับได้ลูกคนเดียว โดยโรงพยาบาลนัดเจรจาในวันนี้ จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยทำข่าวเนื่องจากเกรงว่าโรงพยาบาลจะปกปิดข้อมูล

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร พบนายนพกมล ลือโสภา อายุ 42 ปี นางดาวิกา กองอาษา อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.7 บ.สวนสวรรค์ ต.โคกภู อ.ภูพาน พร้อมญาติที่กำลังรอเข้าพบผู้บริหารโรงพยาบาลตามนัดหมาย โดยนายนพกมลเปิดเผยว่า หลังจากภรรยาตั้งครรภ์ก็ได้ฝากท้องไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร และเข้ารับการตรวจครรภ์ตามกำหนดเรื่อยมา

โดยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ได้เจ้ารับการตรวจครรภ์ตามกำหนดนัด แพทย์ได้ทำการอัลตร้าซาวด์ก่อนแจ้งว่า ภรรยาของตนตั้งครรภ์ลูกแฝด โดยได้บันทึกลงบนสมุดคู่มือแม่และเด็กเล่มสีชมพูว่าเป็น Twin ซึ่งหมายถึงเป็นแฝด ซึ่งในวันนั้นคุณหมอที่ตรวจได้อธิบายรายละเอียดให้ฟังอย่างชัดเจน พร้อมทั้งยังวาดรูปประกอบลงบนสมุดสีชมพูด้วย ซึ่งก็สร้างความดีใจให้กับครอบครัวมากที่จะได้ลูกแฝด

นายนพกมล กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากทางคุณหมอว่าครอบครัวตนจะมีลูกแฝดแล้วนั้น ทางครอบครัวก็ได้มีการตระเตรียมสิ่งของเครื่องใช้และสถานที่ไว้เตรียมต้อนรับลูกแฝดอย่างเต็มที่ จนกระทั่งถึงกำหนดนัดผ่าคลอดวันที่ 23 สิงหาคม 2566 กลับปรากฏว่าจากที่คุณหมอบอกว่าจะได้ลูกฝาแฝด แต่กลับได้ลูกสาวออกมาเพียงคนเดียว

ทำให้ครอบครัวพากันสงสัยแต่ก็ไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจน และด้วยความที่เป็นคนบ้านนอกก็ไม่กล้าซักถามอะไรมาก พาภรรยากลับมาพักฟื้นที่บ้านก็ยังพากันคาใจอยู่ตลอด จึงได้ตัดสินใจปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและเดินทางมารับฟังคำชี้แจงจากทางโรงพยาบาลในวันนี้

ต่อมาเวลา 12.50 น. โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร ได้เชิญสองสามีภรรยา ญาติๆและผู้ใหญ่บ้าน เข้ารับฟังคำชี้แจงจากผู้บริหาร โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง โดยใช้เวลาเจรจากันประมาณ 30 นาที นายนพกมลและนางดาวิกาพร้อมผู้ใหญ่บ้านได้ออกมาแจ้งกับสื่อมวลชนว่า โรงพยาบาลได้ชี้แจงรายละเอียดว่า ความจริงแล้วนั้นนางดาวิกาตั้งครรภ์ลูกคนเดียวเท่านั้น

แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความคลาดเคลื่อนของเครื่องมือตรวจอุลตร้าซาวด์ของโรงพยาบาลเอง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แพทย์ผู้ทำการตรวจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้เสนอการเยียวยาให้กับครอบครัวของตน ที่แม้จะรู้สึกเสียใจในความรู้สึกที่เข้าใจว่าจะได้ลูกฝาแฝด แต่เมื่อโรงพยาบาลชี้แจงเช่นนี้ก็ต้องทำใจยอมรับความผิดหวังนี้ให้ได้

ข่าวโดย สุริยา แก้วก่า ผู้สื่อข่าวจังหวัดสกลนคร

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews