วันที่ 14 ก.ย. ในเฟซบุ๊กเพจ Btime ได้มีการรายงานว่า นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติช่วงนี้เงินทุนไหลออกมาก โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว หรืออายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป ถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากตลาดทุนยังไม่เห็นความชัดเจน และขาดความมั่นใจเกี่ยวกับการหาแหล่งเงินของรัฐบาลมาทำนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในเวลาเดียวกัน ปัจจัยภายนอก คือ นักลงทุนเทในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกขายตราสารดังกล่าวที่มีอายุยาวทั้งในสหรัฐและญี่ปุ่น เพื่อปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุน หรือพอร์ต ไม่ใช่แค่เก็งกำไรค่าเงินเหมือนที่ผ่านมา

ในเดือนกันยายนนี้ จากข้อมูลต้นเดือนมาถึงวันที่ 11 กันยายน 2566 พบว่า การไหลออกสุทธิของเงินลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 19,625 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินไหลออกจากตราสารหนี้สุทธิ 10,253 ล้านบาท และเงินไหลออกจากหุ้นสุทธิ 9,372 ล้านบาท ขณะที่ ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 11 กันยายน 2566 พบว่า เงินทุนไหลออกสุทธิแล้ว 272,148 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินไหลออกจากหุ้นสุทธิ 144,569 ล้านบาท และเงินไหลออกจากตราสารหนี้สุทธิ 127,579 ล้านบาท

ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท จะเห็นการขายตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก แต่ช่วงนี้เป็นการขายตราสารหนี้ระยะยาว นักลงทุนมองว่าตราสารหนี้ระยะยาวช่วงนี้ไม่น่าสนใจ เนื่องจากน้ำมันดิบตลาดโลกมีราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในประเด็นสำคัญ คือ เรื่องการแจกเงินดิจิทัล ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกู้ จะใช้เงินรัฐวิสาหกิจ หรือจะโยกงบประมาณ