คืบหน้าชาวบ้านร้องผู้ว่าฯ ผู้ใหญ่บ้าน โกงกองทุน จนชาวบ้านถูกยึดทรัพย์

คืบหน้าชาวบ้านร้องผู้ว่าฯ ผู้ใหญ่บ้าน โกงกองทุน จนชาวบ้านถูกยึดทรัพย์

จากกรณี นางสาวชุติมณฑน์ อายุ 60 ปี นายวงศ์ อายุ 58 ปี นายรวย อายุ 67 ปี พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านท่าวังแคน หมู่ 9 ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย จ.เลย ร่วม 100 คน เข้าร้องเรียนต่อนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย แต่ติดราชการมอบให้นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าฯ เลย มารับหนังสือแทน ให้ขับไล่ถอดถอนนายสายัญ มั่งมา ผู้ใหญ่บ้านท่าวังแคน ให้ออกจากตำแหน่งตามมาตรา 14 (6)

เพราะชาวบ้านไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจ นำเงินกองทุนหลายโครงการฯ และของสถาบันการเงินเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท มาปล่อยกู้ให้ชาวบ้านเพียง 3,700,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2,900,000 บาท นำไปใช้ส่วนตัว โดยมีชาวบ้านและคณะกรรมอีก 7 คน เป็นคนเซ็นค้ำประกัน จนถูกยึดบ้านและที่ดิน

ล่าสุดวันที่ 13 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านนายรวย อายุ 67 ปี เลขที่ 13 หมู่ 9 ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย 1 ในคณะกรรมการที่ถูกทางธนาคารยึดบ้านและที่ดิน 4 แปลง รวม 11 ไร่ เป็นเงินร่วม 3,000,000 บาท เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านมีเพื่อนบ้านนั่งจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นายรวย เล่าว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่บ้านถูกยึด เป็นที่ดินและบ้านรวม 4 แปลง รวม 11 ไร่ ทั้งที่ตนเองก็ไม่เคยไปกู้เงินกองทุนหมู่บ้านเลย เพียงแต่เป็นคณะกรรมการ จนต้องมาเดือดร้อนถูกทางธนาคารยึดทรัพย์บ้านและที่ดิน มันเจ็บซ้ำที่อยู่บ้านตัวเองที่ถูกธนาคายึดไปแล้ว ไม่รู้จะถูกไล่ออกจากบ้านเมื่อไหร่ ฝากไปยังผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยมาเคลียร์เรื่องตนให้จบ สงสารตนเองด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวไปที่บ้านนายสายัน มั่งมา ผู้ใหญ่บ้านท่าวังแคน พบเป็นบ้านเดียว 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังใหญ่ พบผู้ใหญ่อยู่ภายในบ้าน อยู่ระหว่างดูเอกสารที่ถูกร้องเรียนและจัดเตรียมเอกสาร

นายสายัน ผู้ใหญ่บ้านท่าวังแคน เปิดเผยว่า ที่ชาวบ้านร้องเรียนนั้น ไม่มีความจริง เงินที่ไปกู้ธนาคารออมสินมา 3,000,000 บาท ไม่ใช่เงินกองทุนหมู่บ้านคณะกรรมการมี 7 คน รวมตนเองด้วย กู้มาตั้งแต่ปี 2557 ธนาคารคิดดอกเบี้ย 4.85 บาท ต้องส่งคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยปีละ 660,000 บาท นำมาปล่อยให้สมาชิกในหมู่บ้านร้อยละ 5 บาท ปล่อยกู้ให้สมาชิก 55 คน คนละ 20,000-100,000 บาท จนมีสมาชิกบางคนไม่ส่งทั้งต้นและดอกเบี้ย บางคนส่งก็ไม่ถึงเงินที่ต้องผ่อนชำระ จนหนี้ติดลบ

ตนเองจึงต้องเอารถกระบะและที่ดิน 7 แปลง จำนวน 8 ไร่ ของตนเอง ไปกู้ธนาคารมาได้ 1,000,000 บาท เอาเงินบางส่วนที่กู้ทางธนาคารออมสินมาอุดเงินกู้ แต่ก็ไม่สามารถอุดได้ เพราะสมาชิกไม่จ่ายและจ่ายไม่ตรงเวลา จนทางธนาคารฟ้องและยึดทรัพย์ตนเองและคณะกรรมการทั้งหมด และมีการเจรจากับทางธนาคารให้จ่ายเดือนละ 200,000 บาท แต่สมาชิกก็ไม่จ่าย ก็มีปัญหาอีก

ส่วนเรื่องกองทุนโครงการประชารัฐได้มา 700,000 บาท นำมาซื้อปุ๋ยให้ชาวบ้านไปใช้ แต่ก็เหมือนเดิม ชาวบ้านจ่ายบ้างไม่จ่ายก็มีจนเกิดปัญหา จนมีงบกองทุนประชารัฐ 300,000 บาท เพื่อสร้างโรงน้ำดื่มในชุมชน ก็ทำประชาพิจารณ์ตกลงสร้างโรงน้ำดื่ม แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ก้ต้องเอาเงินจากสมาชิกที่ชำระค่าปุ๋ยมาสร้างให้เสร็จ จนชาวบ้านเข้าใจว่าตนเองนำเงินไปใช้ ซึ้งสามารถตรวจสอบได้ และทุกเรื่องคณะกรรมและชาวบ้านก็ทราบเรื่องทั้งหมด จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองด้วย

ข่าวโดย บุศย์ สิริปัญญาพร ผู้สื่อข่าวจังหวัดเลย

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ