จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวโซเชียลกรณีของ 3 แม่ลูก ที่ออกมาร้องสื่อฯ หลังถูกสามีตัวแสบ รวมหัวกับพี่น้องฝั่งสามีอีก 6 คน ร่วมกันวางแผน ฟ้องศาลฮุบสมบัติเป็นที่ดินทั้งหมด 19 แปลง หรือเกือบ 200 ไร่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ล่าสุด 3 แม่ลูก ได้ออกมาเปิดเผยว่าทั้งหมดพร้อมทั้งแสดงหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่า ที่ดินทั้งหมด 19 แปลง ที่ผัวตัวแสบพร้อมพี่น้องฮุบไปเป็นกงสีของตระกูลนั้น เป็นทรัพย์สินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ไม่ใช่เงินกงสี ตามที่ถูกกล่าวอ้าง

นางปองจิตร เมียหลวง วัย 70 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แต่งงานกับสามีคนนี้ตอนอายุ 22 ปี ด้วยการคลุมถุงชนของพ่อแม่ทั้งคู่ จากนั้นก็อยู่กินกันฉันสามีภรรยา แต่ผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน สามีก็เริ่มออกลาย ทำนิสัยเจ้าชู้ให้เห็น แต่ก็ต้องทน และมีลูกด้วยกัน 2 คน

แรกๆ ก็ช่วยกันทำมาหากิน จนทั้งคู่สร้างเนื้อสร้างตัวเริ่มมีฐานะ จึงได้ซื้อที่ดินเก็บไว้ทั้งหมด 5 แปลง เ ต่อมาปี 2531-2532 สามีหนีไปมีเมียน้อย เป็นนักร้องกลางคืน ปรนเปรอสารพัด และซื้อบ้านเพื่อไปอยู่ด้วยกัน ก่อนจะแยกทางกับนางปองจิตร จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ตกลงกันว่า จะยกกิจการร้านทองดังกล่าวให้ลูกชายที่ขณะนั้นวัย 16 ปี และลูกสาววัย 15 ปี พร้อมยกที่ดิน ทั้ง 5 แปลง ซึ่งเป็นสินสมรสให้ลูก

แต่หลังจากนั้นชีวิตทั้งสามคนแม่ลูกก็ไม่ได้สุขสบาย ต้องช่วยกันทำมาหากินเพราะไม่มีพ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว ในที่สุดลูกทั้งสองจึงตัดสินใจออกจากโรงเรียน มาช่วยแม่ขายทองจนในที่สุดทั้งสามคน ก็ทำให้กิจการร้านทองไปได้ดี จนมีเงินเก็บ นางปองจิตรและลูกๆ จึงอยากจะต่อยอดจากเงินที่มี ด้วยการกว้านซื้อที่ดินริมถนนสายเอเชีย ในอำเภออุทัย ได้เพิ่มอีก 14 แปลง รวมกับที่ดินสินสมรสที่ทั้งคู่ยกให้ลูกๆ อีก 5 แปลง รวมเป็น 19 แปลง จนเดี๋ยวนี้มูลค่าที่ดินผืนนั้นพุ่งสูงกว่าพันล้านบาท

แต่ในปี 2556 สามีที่ทิ้งครอบครัวไปอยู่กับเมียน้อยก็ได้ย้อนกลับมา โดยสร้างเรื่องวางแผนกับน้องๆ อีก 6 คน หวังจะฮุบสมบัติที่เป็นที่ดินของนางปองจิตร และลูกๆ ทั้งหมด 19 แปลง เพื่อเอาไปปรนเปรอเมียน้อย และนำมาเป็นสินทรัพย์ในกงสีให้น้องๆ ทั้ง 6 คนได้ใช้อย่างสุขสบาย

สามีทำทีให้น้องๆ ทั้ง 6 คน เป็นโจทก์ รวมหัวกลั่นแกล้งฟ้องคดีแพ่ง ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บอกว่าที่ดินทั้ง 19 แปลง เป็นที่ดินกงสี โดยร่วมกันฟ้องเท็จ และเบิกความเท็จ ซึ่งมีสามีรับบทเป็นจำเลยที่ 1 เบิกความสนับสนุนตามฟ้องว่า ที่ดินทั้ง 19 แปลง เป็นของกงสี แต่ที่สุด ทั้ง 3 ศาล พิพากษา ตามที่โจทก์ยื่นฟ้อง ฝั่งสามีเป็นผู้ชนะ โดยที่ไม่แยแสว่าแม่และลูกจะรู้สึกอย่างไร

เรียบเรียง มุมข่าว