เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม จากกรณีที่ในโลกโซเชียลในเมืองเพชรบูรณ์ต่างพากันชื่นชม ป้าแหม่ม คนกวาดถนนน้ำใจงาม ผู้เก็บสร้อยคอและเลสข้อมือทองคำน้ำหนัก รวม 6 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทอง 1 องค์ได้พร้อมส่งคืนเจ้าของ

ทั้งนี้ หลังจาก นายภัทรดร โฆษิตานนท์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ทราบเรื่องได้รุดไปชื่นชม พร้อมแสดงความขอบคุณ ป้าแหม่ม ในการทำความดีในครั้งนี้ และยังขอบคุณ นายชัยรัตน์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านครัวลุงเอ้ ที่ให้คำแนะนำพร้อมพาป้าแหม่มไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จนส่งคืนทองรูปพรรณคืนเจ้าของได้

นางราตรี หรือ ป้าแหม่ม อายุ 55 ปี พนักงานกวาดถนน ซึ่งเป็นพนักงานลูกจ้างชั่วคราว เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เล่าว่า เมื่อเวลาราว 05.00 น. ขณะกวาดถนนบริเวณถนนตั้งใจพัฒนาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์มาถึงหน้าบ้านพัก ซึ่งเป็นตึกห้องแถวเลขที่ 38/26 ข้างร้านครัวลุงเอ้ เห็นตลับพลาสติกใส่ทองตกอยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านพักดังกล่าว แต่ไม่กล้าหยิบ หรือแตะต้อง จึงใช้ถังขยะพลาสติกครอบไว้ก่อน จากนั้นจึงไปแจ้งให้เจ้าของร้านครัวลุงเอ้ให้มาช่วยดู กระทั่งเจ้าของร้านพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จนติดตามเจ้าของเพื่อนำส่งคืนได้เป็นผลสำเร็จ

ป้าแหม่มเล่าอีกว่า ตอนพบครั้งแรกเห็นฝาตลับใส่ทองเปิดแง้มอยู่ ไม่กล้าจับดู แต่ก็คิดว่าเจ้าของบ้านคงทำตกไว้ จึงนำถังใส่เศษขยะพลาสติกมาครอบปิดไว้ พร้อมเลื่อนแอบไว้ด้านข้าง คิดว่าหากเจ้าของบ้านตื่นก็จะมาสอบถามอีกที จนกวาดถนนเสร็จประตูยังไม่เปิด จึงไปหาเจ้าของร้านครัวลุงเอ้ที่อยู่ด้านข้างให้มาช่วยดู กระทั่งพบว่าเป็นสร้อยคอและเลสข้อมือทองคำ และมีพระเลี่ยมทองอีก 1 องค์ ทั้งนี้ พยายามติดต่อเจ้าของบ้านพักที่พบกล่องใส่ทองตกอยู่ด้านหน้า แต่ติดต่อไม่ได้ เจ้าของร้านครัวลุงเอ้จึงพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จนตำรวจสามารถติดต่อส่งคืนเจ้าของได้ ซึ่งเจ้าของเขาก็ดีใจ

คิดว่าเจ้าของเขาจะรู้ไหม และเขาคงเสียดาย เพราะสร้อยทองเราก็เคยหายมาก่อน ตอนเห็นทีแรกไม่กล้าจับเลย กระทั่งน้องร้านอาหารมาช่วยจับดูและถ่ายรูปไว้ ดีใจมากที่ได้ทำความดี น้ำตาจะไหล ยังโทรไปบอกลูกชายด้วยว่าเมื่อเช้าแม่ได้ทำความดีด้วยนะ ซึ่งลูกชายก็ดีใจและยังชื่นชมอีกด้วย ป้าแหม่มกล่าว

นายชัยรัตน์กล่าวว่า ตอนป้าแหม่มให้ไปช่วยดูและพบว่าเป็นสร้อยคอและเลสทองคำจริงจึงแนะนำให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นของเจ้าของบ้านพักทำตก เลยหาเบอร์โทรเจ้าของบ้านพักกระทั่งตำรวจติดต่อไปแล้วตรวจสอบพบว่าเป็นเจ้าของจริง จึงมอบคืนให้เจ้าของ คิดว่าเจ้าของสร้อยโชคดีมาก และป้าแหม่มก็เป็นคนดี น่าชื่นชมและน่ายกย่องมาก

ด้าน นายอิทธิพล อายุ 31 ปี ช่างภาพฟรีแลนด์ เจ้าของสร้อย กล่าวว่า เพิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านดังกล่าว เมื่อคืนไปงานเลี้ยงรุ่นมาจึงถอดสร้อยคอหนัก 2 บาท และเลสข้อมือหนัก 4 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทองคำเก็บใส่ในตลับ โดยเก็บไว้ในกระเป๋าคาดอก คาดว่าทำตลับพลาสติกใส่ทองตกหล่นตอนก้มเปิดประตูจะเข้าบ้านเมื่อคืนนี้ ตอนมีคนติดต่อมาก็ยังไม่ทราบว่าทำสร้อยคอและเลสข้อมือทองคำตกหล่น รู้สึกตกใจมาก ต้องขอบคุณป้าแหม่มและพี่เจ้าของร้านครัวลุงเอ้ที่เก็บได้ พร้อมช่วยติดต่อส่งคืน ตื้นตันใจมากๆ

ขณะที่นายภัทรดรกล่าวว่า ต้องชื่นชมและนับถือน้ำใจป้าแหม่มมาก ได้รายงานให้นายกเทศมนตรีทราบแล้ว โดยนายกฝากขอบคุณป้าแหม่มและเจ้าของร้านครัวลุงเอ้กับสิ่งดีๆ ที่ได้กระทำ โดยเฉพาะป้าแหม่มที่ได้สร้างภาพลักษณ์ความเป็นพนักงานเทศบาลที่ซื่อสัตย์ สมควรได้รับการยกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีของชาวเพชรบูรณ์และเป็นพนักงานเทศบาลอีกด้วย