วันนี้ 14 สิงหาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากการจับกุม นายนันทจักษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 ม.2 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาลักพาตัว ด.ช.สิทธิเดช หรือน้องเดช อายุ 2 วัน ออกจากอกนางสาวยุภารัตน์ เทศนาม อายุ 26 ปี มารดา ที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลบางเลน เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ซี่งมีประเด็นสงสัยเกี่ยวโยงไปถึงคดีน้องต่อที่ปิดคดีไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหลายประเด็น

โดยวันนี้ นายนันทจักษ์ ยังถูกควบคุมตัวเพื่อทำการสอบปากคำอยู่ที่ สภ.บางเลน จ.นครปฐม ตามอำนาจการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้มีการแกะบันทึกข้อมูลการติดต่อและเส้นทางทางการเงินของผู้ต้องหาว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้างและมีแหล่งที่มาทางการเงินอย่างไร และสอบปากคำถึงมูลเหตุที่ก่อเหตุดังกล่าวว่ามีจุดประสงค์ใด

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สงสัยในหลักฐานที่พบจากสมุดบัญชีว่า วันที่น้องต่อหายตัวไป เคยมีการเรียกตัวนายนันท์มาสอบถามแล้วโดยปฎิเสธไม่เห็นไม่ทราบเรื่อง และกล้องวงจรปิดที่บ้านก็ถูกแจ้งว่าเสีย แต่ข้อสงสัยที่พบเพิ่มเติมคือวันที่น้องต่อหายตัวไป เลขบัญชีของนายนันท์ มีการเคลื่อนไหวเงินเข้าบัญชี 6 หมื่นบาท

ต่อมาช่วงบ่าย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้กลับมาลงพื้นที่ในช่วงบ่าย ได้นำตัวนายนันทจักษ์ กลับบมาที่บ้านพักอีกครั้งเพื่อเตรียมหาหลักฐานทั้งหมดที่สงสัย เพื่อนำมาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 3 ก่อนหน้าประกอบด้วย แจ้ง 3 ข้อหา พรากผู้เยา , บุกรุกในเวลากลางคืนและเสพยาเสพติด

โดยกำหนดแบ่งกั้นเขตแนวหวงห้าม และให้เจ้าตัวชี้จุดหนักฐานต่างๆ ที่โดยมีสื่อมวลชนมาติดตามทำข่าว และมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิวิน วิน ได้เข้ามาช่วยติดตามข้อมูลในการประสานงานเพื่อการช่วยเหลือน้องเดชและส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย

นายส่งเสริม อายุ 55 ปี 56 ม.6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ญาติของพ่อน้องต่อ บอกว่า ตั้งแต่ตนเองมาอาศัยที่บ้านนี้ เพิ่งเห็นเขาประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวในช่วงที่มีสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดและไม่ค่อยได้ยุ่งกับใครเพิ่งมาทราบข่าวว่ามีเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด เคยแต่ขับรถผ่านหน้าบ้านไม่ได้ทักทายอะไร ซึ่งที่เห็นในบ้านที่หลานสาว 2 คน อยู่ในบ้านนั้น ซึ่งน้องต่อเป็นเด็กผู้ชายน่ารัก แต่มาเคสนี้มาเป็นเด็กผู้ชายเหมือนน้องต่อ

นางสาวกำไล อายุ 43 ปี บอกว่า นายนันทจักษ์ หรือนายนันท์ เป็นลูกติดกับสามีเก่า ที่มาได้พ่อของตนเองเป็นเมีย โดยความเกี่ยวข้องกันไม่ได้เป็นอะไรกับตนเอง แต่บ้านหลังที่เกิดเหตุ พ่อได้ยกให้กับแม่ของนายนันท์และนายนันท์ มาอาศัย ตนเองที่เป็นลูกแท้ๆ กลับไม่ได้บ้านอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้เพราะพ่อก็ไล่ออกให้ไปอยู่กับน้า แต่นิสัยปกติของนายนันท์ จะเป็นคนเงียบๆเก็บตัวไม่ยุ่งกับใคร อาศัยอยู่แต่ในบ้าน แต่ก็จะเห็นว่าชอบคุยกับเด็กๆ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็เพิ่งทราบเรื่อง

ข่าวโดย ปนิทัศน์ มามีสุข ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครปฐม

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews