เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา พ.อ.ทวีศักดิ์ สมพงษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ หลานสาวของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ชาวบ้านดงเค็ง ม.4 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หายออกจากบ้านและออกตามหาแล้วแต่ยังไม่พบ โดยได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากอาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมช่วยออกตามหา ทราบว่ามีชาวบ้านพบน้องเดินผ่านหน้าวัดบ้านดงเค็ง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม น.ส.บี เล่าว่า ด.ญ.เอ เป็นลูกสาวของพี่ชายสามี ส่วนแม่เด็กเสียชีวิตไปแล้ว พ่อเด็กป่วยไม่สามารถดูแลน้องได้ เมื่อ 3 เดือนก่อนตนและสามีจึงพาน้องมาดูแลและรักเหมือนลูก ช่วงค่ำน้องบอกว่าจะออกไปเล่นกับเพื่อนแต่ตนไม่อนุญาต น้องก็วิ่งออกจากบ้านไป ตนก็ออกไปตามกลับมา น้องก็ออกไปอีก จากนั้นน้องก็ออกไปจากบ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้ตนออกไปตามหาไม่พบ เกรงว่าน้องจะได้รับอันตราย จึงโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ

ต่อมา เวลา 22.30 น. ขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก พ.อ.ทวีศักดิ์ สมพงษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านจั่น ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ว่า มีพลเมืองดีพบเด็กหญิงคนดังกล่าวเดินตากฝนที่จุดกลับรถบ้านคำกลิ้ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งขณะนั้นน้องเปียกฝนเนื้อตัวหนาวสั่น จึงพาขึ้นรถไปที่โกดังโรงสีข้าวบ้านดงเค็ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งผู้ปกครองเด็กให้ทราบ และพบว่าบริเวณขามีร่องรอยฟกช้ำและศีรษะโนคล้ายโดนทำร้าย จึงสอบถามน้องทราบว่า ถูกผู้ปกครองเอาไม้แขวนผ้าตี ส่วนสาเหตุที่หนีออกมาจากบ้านนั้น เพราะอยากกลับบ้านที่หนองโอน ต.เชียงพิณ

ต่อมา น.ส.บี และสามี ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาและอาสะใภ้ของเด็ก และเป็นผู้ปกครองของเด็ก ได้เดินทางมาเพื่อขอรับตัวเด็กกลับบ้าน และยอมรับว่าเป็นคนตีเด็กจริงเพราะต้องการสั่งสอน และอ้างว่าเด็กขโมยเงินลักเล็กขโมยน้อย ถึงจะตีก็รักเหมือนเดิม แต่นายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านจั่นต้องการพาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แต่ผู้ปกครองไม่ยินยอม

ทางเจ้านหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามเด็กว่า ต้องการอยู่กับใคร ซึ่งเด็กบอกว่าอยากกลับบ้านไปหาพ่อบังเกิดเกล้า จากนั้นทางตำรวจจึงพาไปส่งให้พ่อที่บ้านหนองโอน ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ตามความสมัครใจของเด็ก

เรียบเรียง มุมข่าว