หนุ่มหายไปในป่า ยังหาไม่เจอ ร่างทรงยุค5G โทรคุยเจ้าเมืองลับแล ขอเปิดทางเข้าไปรับตัว

หนุ่มหายไปในป่า ยังหาไม่เจอ ร่างทรงยุค5G โทรคุยเจ้าเมืองลับแล ขอเปิดทางเข้าไปรับตัว

ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านปูพรมค้นหานายพักพงษ์ อุตะมะ อายุ 37 ปี ชาวบ้านโนนสวาง หมู่ที่ 13 ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งเข้าไปจับตั๊กแตนปาทังก้าภายในสวนป่ามัญจาคีรี พื้นที่บ้านห้วยหินเกิ้ง ม.11 ต.โพนเพ็ก แต่ไม่ได้กลับออกมาพร้อมเพื่อน และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2566 ซึ่งการค้นหานั้นทางตำรวจ ตชด.ภาค 2 ได้นำสุนัขดมกลิ่นมาร่วมปฏิบัติการค้นหาในวันนี้ด้วย ซึ่งจากการค้นหาตั้งแต่เช้าถึงเย็นยังไม่พบนายพักพงษ์แต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นการค้นหาไว้ 3 ประเด็นประกอบด้วย เป็นลมหมดสติภายในป่าเพ็กซึ่งมีลักษณะสูงกว่า 2 เมตร คือท่วมศีรษะของผู้สูญหาย ประเด็นที่สองอาจถูกสัตว์มีพิษกัดหรืองูฉกในป่า และประเด็นสุดท้ายคือถูกทำร้าย

นายวิศิษฏ์ นรสิงห์ นายอำเภอมัญจาคีรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการค้นหาบุคคลสูญหาย ได้สั่งทำการปูพรมเดินค้นหาอีกครั้งพร้อมสุนัขดมกลิ่น 2 ตัวจาก ตชด.24 อุดรธานี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ชีพ กู้ภัย ผู้นำชุมชน พร้อมทั้งชาวบ้านโดยได้ทำการค้นหาทั่วทั้งบริเวณของป่าอีกครั้ง และทำการสแกนค้นหาในจุดที่ยังไม่ได้สำรวจเมื่อวานที่ผ่านมาบริเวณข้างเต็นท์อำนวยการ แต่จากการสแกนค้นหาก็ไม่พบร่องรอยหรือวัตถุพยานเกี่ยวกับผู้สูญหายแต่อย่างใด โดยในเวลา 14.30 น. นายอำเภอได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันทุกฝ่ายพร้อมทั้งครอบครัวของนายพักพงษ์ที่สูญหาย ซึ่งไม่ติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันค้นหาในภารกิจครั้งนี้อย่างแข็งขัน ก่อนจะประกาศยุติภารกิจการค้นหา โดยจะยังคงเปิดรับเบาะแสทุกช่องทางเพื่อสืบสวนทราบให้ได้ข้อเท็จจริงในทุกประเด็น และในการดำเนินการก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับแจ้งคนหายสืบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้นนั้นเชื่อว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ป่าแล้ว เนื่องจากไม่มีวัตถุพยานหลักฐานบ่งชี้ปรากฏหรือมีร่องรอยใดๆ จากการปูพรมค้นหาซึ่งมีการค้นหาในทุกมิติแล้ว แต่หากไม่ได้อยู่ในพื้นที่จะมีการออกไปแบบไหนมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตซึ่งก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของทางตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ

ขณะเดียวกัน ทางภรรยาและแม่ของผู้สูญหายได้ให้ร่างทรงซึ่งเป็นร่างทรงผีฟ้าทำพิธีขอขมาพ่อปู่สีหราชซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้ตามความเชื่อของชาวบ้าน เพื่อให้การเปิดป่าค้นหานายพักพงษ์เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีญาติพี่น้องและชาวบ้านบางส่วนได้ออกติดตามค้นหาโดยมีร่างทรงพ่อปู่ฤๅษีซึ่งเห็นข่าวคนหายอยากมาช่วยตามอีกแรง โดยได้ทำการจุดธูปทำพิธีพิธีกรรม สักพักก็เหมือนสื่อสารกับบางอย่างได้แล้วพูดว่าอยู่ทางทิศตะวันออกของป่านี้ไป 9 กิโลเมตร ซึ่งนายพักพงษ์ยังมีชีวิตอยู่เดินกลับมาแล้วจากเมืองลับแล 2 กิโลเมตร เหลืออีก 7 กิโลเมตรให้รีบไปรับตัวก่อนเวลาเที่ยง ไม่งั้นจะค้นหายากก่อนที่พ่อปู่จะเดินนำไปอย่างรวดเร็ว โดยมีชาวบ้านและญาติของผู้สูญหายติดตามค้นหาไปด้วย โดยกระจายกำลังเดินค้นหาทั้งลงในเหวลึกจำนวน 6 เหว ออกจากป่าต้นเพ็กเข้าสู่ไล่มันสำปะหลั งข้ามห้วยลงเหวไปถึงไร่ยูคาลิปตัส โดยระยะทางในการเดินมากกว่า 10 กิโลเมตร

ช่วงที่พ่อปู่ค้นหานั้นก็ได้มีการทำพิธีอีกครั้งโดยจุดธูปขอขมาเจ้าที่เจ้าทางพร้อมทั้งใช้โทรศัพท์สื่อสารกับพ่อเมืองลับแล ซึ่งมีการพูดคุยกันสักพักก่อนที่พ่อปู่จะสื่อสารบอกว่านายหนุ่มหลงเข้าไปอยู่ในเมืองลับแลแล้วไปขโมยสมุนไพรพันธุ์ไม้ภายในเมืองลับแล เจ้าเมืองโกรธจึงไม่ยอมปล่อยตัวออกมา โดยพ่อปู่ได้สื่อสารกระแสจิตโดยมีโทรศัพท์ร่วมในพิธีคุยกับทางพ่อลับแลแล้ว โดยพ่อเมืองลับแลบอกว่ายอมปล่อยตัวออกมาแล้ว อยู่ที่ไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านในจุดที่ระบุว่าเดินกลับมา เมื่อพ่อปู่และชาวบ้านมาถึงจุดที่พ่อปู่บอกว่าเป็นจุดที่นายพักพงษ์ผู้สูญหายอยู่ในบริเวณนี้ ก็ได้ช่วยกันตะโกนเรียกเรียกชื่อพร้อมกับออกค้นหาแต่ก็ยังไม่พบ ก่อนที่พ่อปู่จะมีการทำพิธีสื่อสารกับเจ้าเมืองอีกครั้งโดยยังคงจะค้นหาต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ