หลวงพี่น้ำฝน แจงคำสั่งมหาเถรสมาคม สั่งห้ามพระยุ่งการเมืองชัดเจน หลังพระพยอม ออกมาวิจารณ์เรื่องการเมือง

หลวงพี่น้ำฝน แจงคำสั่งมหาเถรสมาคม สั่งห้ามพระยุ่งการเมืองชัดเจน หลังพระพยอม ออกมาวิจารณ์เรื่องการเมือง

วันนี้ 25 กรกฎาคม 2566 กรณีโลกโซเชียลมีการแชร์และมีกระแสวิจารณ์หลังจาก พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ได้ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองและกล่าวถึงประเด็นที่มีการจะแก้มาตรา 112 ซึ่งเป็นคลิบไวรัลที่มีกระแสถึงความเหมาะสมที่พระภิกษุออกมาวิจารณ์และแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในช่วงที่กำลังมีการเจรจาสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งเป็นช่วงที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนที่ความคิดเห็นแตกต่างกันในมุมมองทางการเมือง

ล่าสุด พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้ออกมาให้ความเห็นว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวได้เปิดดูคลิปที่ญาติโยมเกิดความไม่สบายใจซึ่งส่งมาให้ดูแล้ว อาตมาคิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของการบ้านการเมืองและคณะสงฆ์ก็มีคำสั่งมหาเถระสมาคมเรื่องห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมืองพ.ศ. 2538 กำหนดไว้อยู่แล้ว

ในส่วนของอาตมาเห็นปัญหาบ้านเมืองในช่วงนี้ก็ได้แต่นำมาปลงและศึกษาด้วยตัวเองจากเหตุไปหาผล และนำมาคิดวิเคราะห์แยกแยะแต่ไม่ควรออกมาวิจารณ์หน้าสื่อหรือกระทำการใดใดที่ขัดต่อคำสั่ง และคณะสงฆ์ควรจะอยู่ในศีลาจารวัตร การวิจารณ์การเมืองไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วยเลย

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวอีกว่า ทางที่ดี คณะสงฆ์ควรอยู่ในระเบียบของคณะสงฆ์การจะออกมาวิจารณ์หรือกระทำการใดใดก็ถือเป็นการผิดและขัดคำสั่งของมหาเถระสมาคมซึ่งยิ่งมาพูดเกี่ยวกับมาตรา 112 เพราะพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ก็ได้ทำหน้าที่ในการดูแลและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว รวมถึงการแต่งตั้ง สมณศักดิ์ก็เป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่แล้ว

เรื่องนี้อาตมาไม่อยากจะตำหนิแต่ขอพูดในฐานะที่คณะสงฆ์ควรอยู่ในกฎของคณะสงฆ์ซึ่งจริงๆแล้วพระไม่ควรมายุ่งเรื่องการเมืองตั้งแต่เด็กอาตมาเติบโตขึ้นมาก็รู้มาตลอดว่าพระไม่ได้มีหน้าที่มาข้องเกี่ยวหรือมายุ่งกับการเมือ หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ได้น้อมรับ นโยบายจากพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 ซึ่งได้มอบนโยบายให้คณะสงฆ์ปฏิบัติตามกฎและคำสั่งของมหาเถระสมาคมเป็นที่ตั้ง

ซึ่งอาตมาก็น้อมรับมาปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลและกำชับไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในพื้นที่ภาค 14 ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีพระภิกษุไปแสดงความคิดเห็นหรือกระทำการใดใดทางการเมืองที่ไม่เหมาะสมแต่หากมีก็พร้อมจะเข้าไปตรวจสอบดูแลแน่นอน

ข่าวโดย ปนิทัศน์ มามีสุข ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครปฐม

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ