วันที่ 21 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง โดยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิยะบุตร รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.จิรพันธุ์ รุจิระกุล รอง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง รอง ผกก.6 บก.ทล. , พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สว.ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์

ร่วมกันจับกุม นายชวลิต อายุ 45 ปี ข้อหา ใช้แผ่นป้ายทะเบียนมีลักษณะไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยการนำวัสดุหรือสิ่งอื่นใดมาปิดบัง หรือติดไว้ในบริเวณใกล้เคียงกับแผ่นป้ายทะเบียนรถ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 60

การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากได้ได้รับการร้องเรียนจาก ผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งส่วนบุคคลยี่ห้อ Mercedes-Benz ทะเบียน กว 2222 กรุงเทพมหานคร ว่าได้มีใบสั่งจำนวนหลายใบ ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง ส่งมายังบ้านเลขที่ของตน ทั้งที่ไม่เคยขับรถไปจังหวัดบุรีรัมย์

พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สารวัตรตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ สืบสวนและตรวจสอบอย่างละเอียด ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พบว่า มีรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes-Benz สีดำ ทะเบียน กร 2222 กรุงเทพมหานคร มักจะขับขี่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์จริง ได้แจ้งให้เฝ้าระวังตรวจสอบรถคันดังกล่าว

จนกระทั่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์คันดังกล่าวที่ ทล.2445 กม.6 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้เรียกให้หยุดรถ และขอตรวจสอบพบว่าเป็นรถ Mercedes-Benz ทะเบียน 6กร 2222 กรุงเทพมหานคร แต่ได้นำสติ๊กเกอร์สีขาว มาปิดบังเลข 6 ไว้ เมื่อมองด้วยตาเปล่าหรือไม่ตั้งใจสังเกตุ จะเห็นเป็นทะเบียน กร 2222 กรุงเทพมหานคร

จากนั้นได้เชิญตัวผู้ขับขี่คือ นายชวลิต อายุ 45 ปี มาซักถามปากคำที่ ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล.(บุรีรัมย์) โดยนายชวลิต ฯ ให้การว่า ทะเบียนรถของตนนั้นคือ 6กร 2222 กรุงเทพมหานคร ได้ประมูลมาในราคา 199,000 บาท ไม่มีเจตนาที่จะปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน โดยสติกเกอร์ที่ทะเบียนรถนั้น ลูกน่าจะนำมาติดเล่น แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าอาจจะเป็นคนชอบขับรถเร็ว จึงเอาสติ๊กเกอร์มาปิดเอาไว้ เพื่อสลับขาหลอกให้ตำรวจส่งใบสั่งไปยังรถคันอื่น โดยตนเองไม่ได้ต้องรับผิด

แจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมสั่งให้แก้ไข ทะเบียนให้ถูกต้อง แล้วได้โทรแจ้งเจ้าของทะเบียนรถที่ได้รับความเสียหายจากใบสั่งแล้ว โดยจะให้รถคันที่จับได้เป็นคนรับผิดชอบจ่ายค่าปรับทั้งหมด

ทั้งนี้ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ฝากเตือนพี่น้องประชาชน อย่านำการนำวัสดุหรือสิ่งอื่นใดมาปิดบัง หรือติดไว้ในบริเวณใกล้เคียงกับแผ่นป้ายทะเบียนรถ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และทำให้เจ้าของรถที่แท้จริง ได้รับความเดือดร้อนด้วย

ข่าวโดย ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews