ชลน่าน รับ ได้ยินข่าวอีกขั้ว เตรียมเสนอชื่อ บิ๊กป้อม แข่ง ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ชลน่าน รับ ได้ยินข่าวอีกขั้ว เตรียมเสนอชื่อ บิ๊กป้อม แข่ง ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีแผนสองหลังเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ที่ประชุมรัฐสภามีมติเสียงข้างมากไม่เห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ ว่า เพื่อไทยไม่มีแผนสอง มีแค่แผนเดียว คือ การร่วมกันใน 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ฉะนั้น จึงรอพรรคก้าวไกลนัดหมายวัน เวลา และสถานที่ เพื่อนัด 8 พรรคหารือร่วมกัน เพื่อปรับกลยุทธ์ก่อนโหวตรอบ 2

เมื่อถามว่าวิเคราะห์ผลโหวตเมื่อวานนี้อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าดูผลโหวตจากสมาชิกรัฐสภาฝ่ายที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับกลุ่มงดออกเสียง จะเห็นได้ว่าใช้เหตุผลนอกเหนือรัฐธรรมนูญกำหนดในเรื่องคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และต้องเป็นบุคคลที่พรรคเสนอ แต่เหตุผลที่พวกเขาใช้ คือ เรื่องอุดมการณ์และนโยบายทางการเมือง

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ฉะนั้น ถ้าใช้เรื่องดังกล่าวมาเป็นเหตุผลในการโหวต จะทำให้ทิศทางการโหวตเห็นค่อนข้างชัดถึงผลโหวตรอบ 2 ว่าจะไม่ต่างจากเดิม ดังนั้น ถือเป็นประเด็นหลักที่ต้องพูดคุยกันในพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล รวมถึง 8 พรรคการเมือง

เมื่อถามว่าไม่เห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนความเชื่อของส.ว.ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าดูรูปการณ์เมื่อวานก็อาจจะสรุปอย่างนั้นได้ ดูแล้วค่อนข้างริบหรี่ เพราะเขาตั้งเงื่อนไขว่าต้องไม่มีพรรคนี้อยู่ในรัฐบาลเลย มันเลยค่อนข้างลำบาก แต่ส่วนตัวค่อนข้างมีความเชื่อว่า ทางออกสำหรับประเทศมันต้องมี บนพื้นฐานที่ว่าไม่แพ้ทุกฝ่าย ไม่ชนะทุกฝ่าย แต่ประชาชนและประเทศชาติชนะ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าจะมีคำตอบตรงนั้นได้ ส่วนจะเจรจาอย่างไรนั้น ส่วนตัวมองว่าการหารือกัน จะอยู่บนพื้นฐานให้เกียรติและเคารพข้อเสนอของพรรคก้าวไกล รอพรรคก้าวไกลเสนอก่อน จากนั้นก็จะเป็นข้อสรุปร่วมกันของ 8 พรรค

เมื่อถามกรณีมีข่าวว่าในการเสนอโหวตนายกฯ รอบ 2 ถ้ายังมีการเสนอชื่อนายพิธา จะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาชิงนายกฯ ด้วย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ได้ยินข่าวมาเหมือนกัน เขาอ้างด้วยซ้ำว่าถ้าฝืนเสนอชื่อนายพิธาเข้ามา เขาก็มีความชอบธรรมที่จะเสนอรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่ง เพราะถือว่าฝ่ายที่รวมเสียงข้างมากได้ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ประเทศไปต่อไม่ได้

เขาอ้างเหตุผลนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังได้สำหรับกลุ่มหนึ่งด้วย ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวจึงต้องเป็นประเด็นหลักที่ต้องมาพูดคุยกันใน 8 พรรค เพราะถ้าเขาเสนอชื่อแข่ง แสดงว่าต้องมั่นใจผลโหวตแล้ว ดังนั้น ในการหารือ 8 พรรค จึงต้องมาหาบทสรุปเพื่อแก้ไขสมการดังกล่าว ว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงจะไม่ใช่งูเห่าอย่างเดียวแล้ว เพราะงูเห่าอย่างเดียวไม่พอ แต่มันต้องใช้อย่างอื่น ซึ่งมันจะทำลายระบบการเมืองย่อยยับ วงจรอุบาทว์จะกลับมา นพ.ชลน่าน กล่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ