ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ กัญญภัค มนต์วิศรุต ได้มีการโพสต์เล่าเหตุการณ์ หลังจากที่ตนต้องตกเป็นผู้ต้องหาทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยเธอเล่าว่า ความซวย ที่เกิดจาก ความสะเพร่า ของคนอื่น

ในรูปคือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา กับหลักฐานว่าวันเกิดเหตุเราอยู่กับแฟน (มีครบทั้งสถานที่ วัน เวลา)

เมื่อปลายปี 65 มีเบอร์แปลกโทรมา บอกว่าเป็นตำรวจ ถามชื่อ-สกุลเราว่าชื่อนี้ใช่ไหม ให้มารายงานตัวที่สภ.ศรีราชา เพราะมีคนมาแจ้งความว่าเราไปขโมยของเขา เราคิดว่ามิจฉาชีพแน่ๆ เพราะเราไม่เคยไปศรีราชาเลยในชีวิต เลยพูดกลับไปว่า ถ้าจริงพี่ก็ส่งหมายเรียกมา ละเราก็บล็อกเบอร์ไปเลย ตำรวจส่งหมายเรียกมาจริง แต่บ้านหลังนั้นปล่อยเช่า ลูกบ้านก็ไม่ได้แจ้งว่ามีจดหมายมา 12 มิ.ย 66 ตำรวจใช้เบอร์อื่นโทรมา บอกว่าให้มารายงานตัวภายในวันที่ 16 มิ.ย. 66 เราตอบค่ะ ไปแบบงงๆ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง หลังวางสายเลยโทรไปแจ้ง1441 (ตำรวจไซเบอร์) ว่ามีคนอ้างตัวว่าเป็นตำรวจโทรมา

13 มิ.ย. สืบของสน.อุดมสุข เอาหมายจับมารับตัวเราที่บ้านแฟน บอกว่าต้องออกไปกับเขาตอนนี้เลย เราช็อกมาก เพราะอยู่คนเดียว ทำอะไรไม่ถูก เลยรีบโทรบอกพ่อแม่ พี่ แฟน และผู้ใหญ่เราเคารพนับถือ

พอถึงสน.อุดมสุข ก็ทำประวัติ และรอให้สภ.ศรีราชามารับตัวเราไป แต่!!ระหว่างรอเขาจะให้เราเข้าห้องขัง ตำรวจพูดว่า ไม่มีใครมานั่งเฝ้าคุณหรอก ทุกคนต้องทำอย่างอื่น ถ้าเป็นผู้ชายเขาจับใส่กุญแจมือแล้ว แต่แฟนเราขอให้ จนได้นั่งรอตรงร้อยเวร พอถึงที่ศรีราชา เราแยกไปทำประวัติ แบบที่ตำรวจมายืนกันเยอะๆ แล้วเราอยู่ตรงกลางเป็นผู้ต้องหา ตำรวจบอกให้เราปิดหน้าไว้ เดี๋ยวจะอาย (คิดในใจอายอะไรอะกูไม่ได้ทำผิด!!) พ่อกับแม่ ขอดูภาพในกล้องวงจรปิด เขามั่นใจมากว่าไม่ใช่เราแน่ๆ เพราะไอห่านั้นตัวดำ พ่อบอกอย่างกับสก็อย

ตำรวจวิดีโอคอล ให้ไอคนที่แจ้งความดู ว่าใช่เราไหมที่เป็นโจร ครั้งแรกที่เป็นเห็นเรา ยังยืนยันว่า ใช่

เราโมโหมาก เลยพูดไปว่า พี่แน่ใจอ๋อ เราไม่เคยเจอกันเลยนะ เขาหยุดมองหน้าเรา ประมาณ1-2นาที แล้วบอกตำรวจว่า คนนี้ไม่ใช่ครับ

ก่อนที่ตำรวจจะออกหมายจับเรา ตำรวจบอกว่าถามเขาเป็น10 10รอบว่าแน่ใจนะว่าคนนี้ (ตำรวจเอารูปจากการคัดทะเบียนราชให้เขาชี้) ดีที่มีหลักฐาน สตอ มีประโยชน์ก็วันนี้แหละ

ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรอฟ้องกลับค่ะ