วันที่ 4 ก.ค. ในเฟซบุ๊กเพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ได้มีการรายงานว่า เรื่องราวของ มุธุ ราชา หรือ พลายศักดิ์สุรินทร์ ถูกตีแผ่ในปี 2019 สื่อหลักเริ่มลงข่าว ช้างบาดเจ็บจากการล่ามโซ่ ที่ขาหน้าซ้าย และขาขวาหลัง และพบบาดแผลหลายแห่งบนร่างกาย มุธุ บาดเจ็บแต่ถูกใช้ในขบวนแห่ หลายต่อหลายครั้ง และควาญช้างใช้ไม้ตีขา ช้างอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะพักรักษาช้างให้หายดี

ในปี 2022 มุธุ ไม่มีควาญช้างดูแล แต่ถูกมอบให้คนขับรถดูแลแทน อยู่ในป่าที่รกร้าง บ่งบอกถึงช้างเริ่มพิการใช้งานไม่ได้ และแสวงหาผลประโยชน์ไม่ได้ ปี 2020 นักอนุรักษ์ และองกรณ์ RARE Sri Lanka ได้ร้องเรียนมายังทางการไทยเกี่ยวกับช้าง ในปี 2021 ทางการไทย สัตวแพทย์ หน่วยงานไทยเริ่มมาศรีลังกาเพื่อดูอาการช้าง และแพทย์ทราบทันทีว่าช้างอยู่ในภาวะอันตราย

เดือนพฤศจิกายน 2022 ทางการไทยทำเรื่องขอนำ มุธุ ออกจากวัด ที่มุธุ อาศัยอยู่ นักสิ่งแวดล้อมศรีลังกาจะนำช้างไปอาศัยในซาฟารี ศรีลังกา แต่ทางการไทยคัดค้านอย่างหนัก ทางการไทยขอ นำช้างไปไว้สวนสัตว์ เดฮีวาลา ภายใต้สัตว์แพทย์์ไทย และคนเลี้ยงช้างไทย จนกว่าช้างจะพร้อมเรื่องสุขภาพนำกลับไทย

ทางการไทยได้เข้ามาดูแลช้าง เกือบ 1 ปี เป็นช่วงที่ช้างได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ และคุ้นเคยกับคนเลี้ยงช้างไทยมากขึ้น และล่าสุดถูกส่งกลับประเทศไทยทางเครื่องบิน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากคนบางส่วน

ทั้งนี้ ทางศรีลังกาได้ตีข่าวดัง ถ่ายทอดสด ผู้คนจำนวนมากแสดงความยินดี กับมุธุราชา หรือคนศรีลังกาเรียกว่า มุธุ ได้กลับบ้าน เพราะการกลับไทย ผู้คนเชื่อว่าจะรักษา ดูแล มุธุได้ดีกว่า การบาดเจ็บความเป็นอยู่ในศรีลังกานั้นไม่ดีต่อช้าง แต่ก็มีส่วนน้อย ที่คัดค้านการกลับของมุธุ พวกเขายังคิดว่า มุธุ คือสมบัติของศรีลังกา และความผูกพันธ์กับมุธุ มาช้านาน เชื่อว่ามุธุ คือสิ่งนำโชค หลายครั้งในหนึ่งปี มุธุปรากฏในขบวนพิธีต่างๆ ตามความเชื่อเรื่องพิธีกรรมและ ศาสนา มุธุ เหมือนเป็นสัญลักษณ์ศรีลังกาช้างที่งายาวที่สุดในศรีลังกา และในเอเชีย