วันที่ 8 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุหม้อแปลงไฟระเบิดเกิดจากการใช้ไฟฟ้าจากอากาศร้อนเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่บ้านโดยเมื่อกลางดดึกคืนวันที่ 7 พ.ค.66 เวลาประมาณ 22.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ. ศรีไพร สัจจะนรพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุหม้อแปลงไฟระเบิดที่ตลาดชมพูมิ่ง ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ และมีไฟไหม้ ขอให้ตรวจสอบด้วย

หลังรับแจ้งจึงประสาน รถดับเพลิงยมนา เทศบาลเมืองแพร่ นำรถ จำนวน 5 คัน ออกระงับเหตุ พร้องด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้า และหน่วยกู้ภัยแพร่ ร่วมปฏิบัติหน้าที่

พบว่าเกิดไฟไหม้หม้อแปลงข้างถนน หลังคลินิกหมอทิพย์กาญจน์ ทำให้ไฟไหม้สานไฟ สายสื่อสาร และหม้อแปลง โดยไฟได้ลุกลามไหม้รถกระเช้าของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมเพลิง ปีระมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ เนื่องจากที่ด้องดับเพลิงระยะเวลานานเนื่องจากไฟยังปะทุ ด้านหลังหม้อแปลงต่อเนื่อง แต่เดชะบุญที่ไฟไม่ลุกลามไหม้อาคารบ้านเรือน มีเพียงส่วนหลังบ้านของคลินิก ที่ได้รับความเสียหายเป้นข้าวของบางส่วน

จากการสอบถาม นายนพคุณ เหล่าอารยะ อายุ 69 ปี เจ้าของแพร่เกษตรพัฒนา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุให้การว่า ตอนแรกหม้อแปลงระเบิด 1 ครั้ง จากนั้นจึงได้แจ้งไฟฟ้ามาตรวจสอบ แต่ระหว่างนั้นก็ระเบิดอีก 2-3 ครั้ง จนทำให้ไฟไหม้สายสื่อสารบางส่วน จึงเรียกรถดับเพลิงมาดับจนไฟสงบแล้ว รถดับเพลิงก็กลับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้า จึงเข้ามาทำการซ่อมแซมหม้อแปลง และส่วนที่เสียหาย

หลังจากซ่อมเสร็จจึงใช้สับสวิตช์ เมื่อสับตัวแรก ไฟก็มา แต่ เมื่อสับตัวที่ 2 เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง เสียงดังมาก จนเกิดประกายไฟเหมือนพลุแตก ไหม้สายไฟ สายสื่อสาร ไหม้หม้อแปลง ก่อนจะมีสะเก็ดไฟบางส่วน ตกใส่รถกระเช้าและความร้อนจากไฟทำให้ไฟลุกไหม้ล้อรถ ทำให้เจ้าหน้าที่แตกฮือวิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุอย่างฉุกลหุก ก่อนจะประสานรถดับเพลิงมาอีกรอบ ซึ่งคราวนี้ไหม้จริง จนตนเองตกใจ เพราะไฟลุกอย่างน่ากลัว จนรถดับเพลิงมาช่วยดับทัน ดังกล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้า เผยว่า เนื่องจาก 1-2 วัน นี้อาการศร้อนมาก จึงมีการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้น เมื่อวาน(6 พ.ค.66)ก็เกิดเหตุหม้อแปลงระเบิด ไฟดับ 5-6 จุด จนต้องทำงานกันถึงตี 4 มาวันนี้ ก็เกิดเหตุแบบนี้อีก จนทำให้ไหม้หม้อแปลงเสียหายทั้งหมด ทำให้ไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งอาจจะแก้ไขปัญหา ด้วยการนำรถโมบาย มาจ่ายไฟให้ชาวบ้านก่อน เพราะต้องรอให้ซ่อมเสร็จถึงจะจ่ายไฟปกติได้

ข่าวโดย สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดแพร่

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews