วันที่ 3 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตร.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกกลาง หมู่ 5 ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม ว่ามีเหตุคนยิงตัวเองเสียชีวิตที่ทุ่งนาหลังบ้านเลขที่ 147 หมู่ 5 บ้านโคกกลาง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ อบต.นาม่วง แพทย์เวร รพ.ประจักษ์ศิลปาคม ที่บริเวณหลังบ้าน

ซึ่งเป็นทุ่งนาข้างๆ กับคูคันนา มีต้นตะไคร้และต้นมะกะลอพบร่างนายณัฐวุฒิ จันทรเสนา หรือ ณัฐ อายุ 21 ปี นอนเสียชีวิตลักษณะนอนหงายพิงกับคันนา ศีรษะเอียงไปทางด้านซ้าย ผู้ตายสวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวแขนยาวสีเทา กางเกงวอร์มสีเทา ข้างๆ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ตกอยู่ข้างมือซ้าย ตร.ได้ชันสูตรพบว่าที่บริเวณขั้วหัวใจด้านซ้ายถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่บริเวณหัวใจทำให้เสียชีวิตทันที

ขณะที่แม่และพ่อร้องไห้แทบขาดใจที่ต้องสูญเสียลูกชายคนเล็ก และให้การกับตร.ว่า เช้าวันที่ 1 เม.ย.ลูกชายจะเดินทางไปเกณฑ์ทหารที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอประจักษ์ศิลปาคม โดยพ่อจะพาไป แต่ลูกชายบอกว่าไม่อยากไปเกณฑ์ทหาร จากนั้นก็เดินมาหลังบ้านที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืน 1 นัดจึงรีบวิ่งมาดูลูกชายก็เสียชีวิตแล้ว

ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ ญาติๆ ได้ตั้งร่างนายณัฐวุฒิไว้ที่บ้าน ท่ามกลางความเสียใจของญาติๆ ขณะที่แม่ร้องไห้เสียใจไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะต้องสูญเสียลูกชายไปไม่มีวันกลับ ส่วนนายบรรดิษฐ จันทรเสนา อายุ 52 ปีพ่อของผู้เสียชีวิตพาไปดูที่เกิดเหตุพบว่า ห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตรเป็นที่นาหลังบ้าน ข้างๆ คันนามีรอยเลือดและปักธูปเอาไว้จุดที่เกิดเหตุ

นายบรรดิฐ จันทรเสนา พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครอบครัวตนมีลูกชาย 2 คน ลูกชายคนโตทำงานที่ประเทศเกาหลี ส่วนลูกชายคนเล็กผู้เสียชีวิตอยู่กับพ่อกับแม่ วันเกิดเหตุคือเมื่อวานนี้กำลังจะขับรถพาลูกไปคัดเลือกทหารที่ว่าการอำเภอประจักษ์ฯ คุยกันไปมาลูกบอกว่าไม่อยากไปเกณฑ์ทหาร ตนก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกไปแต่ลูกก็ไม่ยอม

กระทั่งเขาเดินหลบไปทางหลังบ้านลงทุ่งนา ตนก็กลับมานั่งคุยกับตาและภรรยาที่หน้ากะว่าสักพักจะไปตามอีกไม่นานก็เดินกลับไปเกลี้ยกล่อมอีก พอไปถึงก็เห็นลูกชายนอนแน่นิ่งแล้ว โดยพบว่ามีเลือดไหลและอาวุธปืน พอไปถึงเห็นร่างลูกชายแล้วรู้สึกสะอึกพูดอะไรไม่ออก ตอนนั่งอยู่หน้าบ้านไม่ได้ยินเสียงปืน แต่คนที่บริเวณทุ่งนาได้ยินเสียง

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ลูกชายก็บ่นว่าไม่อยากอยู่แล้ว ซึ่งตนเองก็ถามว่าทำไมแต่เขาก็ไม่พูดไม่บอก สำหรับผู้ชายคนเล็กนี้เป็นมีนิสัยร่าเริงชอบออกไปเล่นกับเพื่อนชอบสนุก เรียนจบชั้นม. 3 จากนั้นก็ออกมาช่วยงานพ่อแม่ เขาเป็นเด็กดี ส่วนตัวรับมองว่าการที่ลูกชายทำแบบนี้เพราะเขาไม่อยากอยู่แล้วซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยบ่นว่าอยากตาย สาเหตุที่ลูกคิดสั้นเนื่องจากไม่อยากเป็นทหารนั้นไม่น่าใช่เพราะลูกเคยไปขอชุดทหารกับเพื่อนบ้านมาใส่และเคยบอกว่าอยากเป็นทหาร แต่พอมาถึงวันเกณฑ์ทหารลูกกลับไม่อยากไปส่วนตัวแล้วก็รู้สึกแปลกใจ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้คือวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่ผานมา ลูกชายได้มาขอขมาแม่ โดยมานั่งยกมือไหว้แล้วพูดว่าณัฐขอขมาแม่ เมื่อเห็นลูกมาขอขมาแม่ตอนแรกก็แปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าลูกชายจะมาใช้ปืนคิดสั้น ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าการที่ลูกทำแบบนี้จะเป็นบาปจะเป็นกรรม พ่อพูดไปน้ำตาคลอไป

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานี

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews