วันที่ 24 ก.พ 6 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามที่มีพระรูปหนึ่งจำวัดในตัวเมืองพะเยา ได้เข้าสถานความงาม โบทอกซ์ กลูต้าอัพ แล้วมีการแชร์ในโลกโซเชียลและมีการนำเสนอข่าวดังไปทั่ว จนล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้เข้าพบพระครูอุปถัมภ์จันทวงศ์ เจ้าอาวาสวัดหลวงราชสัณฐาน (วัดหลวงใน)ตำบลเวียง อำเภอเมือง พะเยา ทราบว่าหลังมีข่าวเกิดขึ้นทางวัดถือว่าไม่เหมาะสม แต่ไม่ถึงขั้นอาบัติปาราชิก และได้มีการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว ซึ่งในเช้าวันนี้พระรูปดังกล่าว ทนกระแสความกดดัน ไม่ไหว ได้ขอลาสิกขาจากการเป็นพระแล้ว เพื่อจะได้ไปชีวิต แบบฆราวาส ในโลกสวยงามตามที่ต้องการต่อไป

สำหรับอดีตพระเจมส์ ที่เป็นข่าว บวชมานานจำวัดหลวงราชสัณฐาน (วัดหลวงใน) จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดและเป็นเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอ ด้วย

ในส่วนของการแพร่ภาพในโลกออนไลน์ ที่ผ่านมามีรูปถาพของ พระเจมส์ เข้าสถานความงาม ในพื้นที่ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โดยการเข้าทำการโบทอกซ์ กลูต้าอัพ และทำการโพสต์และมีการแชร์ลงในสื่อโซเชียล จนเป็นที่ฮือฮาและวิพากษ์วิจารณ์ทั้งใน โลกออนไลน์และสังคมรอบข้างจนเกิดการกดดันกับพระเจมส์หรือพระปลัดชนันท์ลิภัช อริยเมธี

ล่าสุดพระเจมส์ หรือพระปลัดชนันท์ลิภัช อริยเมธี ทนกระแสการกดดัน และจำเลยสังคม ไม่ไหวจนต้องขอลาสิกขา กับเจ้าอาวาสและคณะสงฆ์รวม4รูปภายในวัด หลวงราชสัณฐาน เมื่อคืนวานที่ผ่านมา มีเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้ทำการลาสิกขาให้หลังจากอดีตพระเจมส์ ลาสิกขาก็ได้ออกไปใช้ชีวิตแบบฆราวาสได้อย่างเต็มรูปแบบ ให้เต็มคาราราเบลต่อไป

นายสมชาย จำปารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพะเยากล่าวว่า ทางสำนักพุทธศาสนาก็ไม่นิ่งนอนใจก็ได้ ได้ทำตามนโยบายสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ให้สอดส่องดูแลพระสงฆ์ ที่ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียในพระพุทธศาสนา และทางสำนัก พระพุทธศาสนาและสำนักสงฆ์ได้ประชุมกันเมื่อวานนี้ ได้มีมติให้ลาสิกขาก่อน ที่มีภาพออกสื่อโซเชียลๆทางพระเจมส์ท่านไปดูแลเรื่องสิว

แต่ในทางพระอาจจะดูไม่เหมาะสม และทางเจ้าตัวก็ยินดีที่จะลาสิกขาและได้ลาสิกขาไปแล้ว เมื่อวานในกรณีที่มีภาพแต่งตัวเป็นหญิงก็เป็นการตัดต่อและทาง สำนักพระพุทธศาสนา จะได้มีการดูแลสอดส่องพระสงฆ์ในพื้นที่ในจังหวัดไม่ให้มีเรื่องเสื่อมเสียต่อไป

ข่าวโดย ปัณณวิชญ์ อยู่ดี ผู้สื่อข่าวจังหวัดพะเยา

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews