2 แม่ลูกขอความช่วยเหลือ ถูกผัวทำร้าย เคยแจ้งตร.แต่เรื่องเงียบบอกให้เคลียร์กันเอง

2 แม่ลูกขอความช่วยเหลือ ถูกผัวทำร้าย เคยแจ้งตร.แต่เรื่องเงียบบอกให้เคลียร์กันเอง

วันที่ 23 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีได้มีเฟซบุ๊คของหญิงสาวคนหนึ่งที่แม่ค้าขายกระเพาะปลาหน้าโรงงานเย็บผ้าสี่แยกช่อระกา ต.นาฝาย องเมืองชัยภูมิได้โพสต์เฟซบุ๊คของความช่วยเหลือ หลังเลิกกับสามีแล้วได้ถูกสามีที่ไม่ทำมาหากินวันๆได้แต่มาขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพเมื่อเมายาก็มักจะก่อนเหตุทุบตีลูกเมีย และล่าสุดได้ขู่จะมาเผาบ้านและทำร้ายสองแม่ลูกและแม่ยาย ที่อยู่ในบ้านให้ดับยกครัว เคยแจ้งตำรวจแล้วก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องของผัวเมียให้กลับไปปรับความเข้าใจกันก่อนมาแจ้งความ เรื่องครอบครัว ตำรวจไม่ยุ่งแล้วเรื่องก็เงียบหายไป ทำให้ตนต้องทนทุกข์ทรมารถูกสามีทาษยานรกทุบตีซ้อมจนสะบักสะบอมเป็นประจำมานานนับเดือน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กพ.66 ที่สภ.เมืองชัยภูมินางสาวอำไพ อายุ 41 ปีบ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 269/3หมู่14 ต.หนองแวง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ปัจจุบันได้มาเช่าห้องอยู่ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่10 บ้านพลัง ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ยึดอาชีพขายน้ำปั้นและกระเพาะปลาน้ำแดงอยู่หน้าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง พิมทิชา มีทองหลาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ

ให้ดำเนินคดีกับนายจรูญ จงพลสิทธิ์ อายุ 47 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ สามี ที่แต่งงานอยู่มากว่า10ปีและมีลูกสาวด้วยกัน 1คน หลังได้มาประกอบอาชีพค้าขายน้ำแข็งใส กระเพาะปลาน้ำแดง อยู่ที่บริเวณหน้าโรงงานเย็บผ้าและอาศัยอยู่กับลูกสาววัย 5 ขวบ และนายจรูญ อายุ 47 ปี สามีและบางครั้งแม่ยายก็จะมาเยี่ยมอาศัยอยู่ด้วยกัน

ต่อมาได้ขอแยกทางกับนายจรูญ สามี เพราะทนพฤติกรรมที่นายจรูญฯ สามี ไม่ไหวเพราะไม่ทำมาหากินวันๆเอาแต่กินเหล้าเมายาบ้า หลังเสพยาบ้าจนเมามาที่ไรจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าวและยังทำร้ายร่างกายตัวเองบ่อยครั้งเป็นประจำ ตัวเองถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บทั้งตามใบหน้าศีรษะและ ตามลำตัว จนบวมช้ำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งตัวเองอยู่กับสามีคนนี้มาเหมือนตกนรกทั้งเป็น และเคยคิดจะจบชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่งแต่มีคนเห็นและช่วยชีวิตไว้ได้ทันหลังมานึกถึงหน้าลูกสาวจึงเลิกความคิดสั้น

น.ส.อำไพฯ ภรรยา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อไม่นานมานี้ นายจรูญฯ สามี ได้มาขโมยเงินที่เก็บไว้ใช้จ่ายค่าเล่าเรียนลูกไป จำนวนหนึ่งเพื่อนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ จนเมาและได้เกิดปากเสียงทะเลาะวิวาทกันกับตนและได้ถูกสามีตบตีจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงมาแจ้งความและกลับไปบอกเลิกกับนายจรูญ ฝ่ายสามี แต่เขาไม่ยอมเลิก แถมยังเคยใช้ปืนไทยประดิษฐ์และมีดปลายแหลม ในครัวมาจี้ขู่จะทำร้ายทั้งแม่ทั้งลูกรวมทั้งแม่ยายที่อาศัยอยู่ในห้องเช่า เมื่อชาวบ้านห้องเช่าใกล้เคียงเห็นทนพฤติกรรมไม่ไหวได้โทรแจ้งตำรวจ191 ให้มาระงับเหตุ

แต่เมื่อตำรวจมาถึงก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับนายจรูญ กลับบอกว่าเป็นเรื่องขอครอบครัวผัวเมีย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางกลับไปได้ อีกไม่นานตนเองก็ถูกนายจรูญฯสามีซ้อมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม ต่อมาจึงรุดเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายจรูญฯสามีให้ถึงที่สุด

หลังรับแจ้งร.ต.ท.หญิงพิมทิชา มีทองหลาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รุดไปสืบสวนสอบสวนและสามารถจับกุมตัวนายจรูญฯในในบ้านเช่าหลังดังกล่าวขณะเมายาบ้านอนลับอยู่ภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าว

จากการสอบถามนายจรูญ ให้การว่าตนเองอยู่กินกับนางสาวอำไพฯ มากว่า 10 ปี แล้วมาระยะหลังตนเองตกงานไม่มีงานทำจึงได้มาช่วยภรรยาค้าขายอยู่หน้าโรงงานฯ มาระยะหลังมักเกิดปากเสียกับภรรยาอยู่เป็นประจำ และมาถูกญาติของภรรยาบังคับให้เลิกกับนางสาวอำไพฯ ตนจึงโมโหลงมือกับภรรยาบางและได้มาถูกภรรยาแจ้งความจับในเวลาต่อมาซึ่งตนยอมรับว่ายังรักลูกและเมียและตนไม่เคยขู่ทำร้ายลูกเมียแต่อย่างใด

หลังสอบสวนจึงควบคุมตัวนายจรูญฯ มาตรวจหาสารเสพติดพบว่าเป็นสีม่วง จึงได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดและข่มขู่และทำร่ายร่างกายผู้อื่นก่อนส่งตัวเข้าห้องขังดำเนินคดีต่อไป

ข่าวโดย วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ