แม่ไม่ขอทองหมั้นคืนแล้ว หลังว่าที่สะใภ้หมั้นซ้อน พร้อมเผยเหตุผล

แม่ไม่ขอทองหมั้นคืนแล้ว หลังว่าที่สะใภ้หมั้นซ้อน พร้อมเผยเหตุผล

จากกรณีแม่พาลูกแจ้งความ หลังลูกชายนำทอง 1 บาทหมั้นสาวไว้ปี 62 แต่ต่อมาฝ่ายหญิงมีชายอื่นถึงขั้นหมั้นหมายกันแล้ว ซ้ำไม่ยอมคืนทองที่หมั้นไว้ อ้างผ่านไป 4 ปีไม่มาแต่งสักที ทำให้ที่บ้านอายคนในหมู่บ้าน โดยวันที่ 21 ก.พ.66 นางคูณ อายุ 54 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายโอเว่น อายุ 20 ปี ลูกชาย เข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

โดยให้ครอบครัวฝ่ายหญิงคืนสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ที่ใช้สำหรับหมั้นหมายกันไว้เมื่อปี 2562 หลังจากฝ่ายหญิงผิดสัญญาแอบไปหมั้นหมายกับชายคนอื่น โดยทางครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวฝ่ายชายรับทราบว่าจะมียกเลิกการหมั้นหมาย

นายโอเว่น เล่าว่า ตนได้หมั้นหมายกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2562 โดยพ่อแม่เดินทางไปขอหมั้นหมายที่บ้านฝ่ายหญิงซึ่งอยู่อำเภอเดียวกัน โดยมีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทไปเป็นของหมั้น จากนั้นตนกับแฟนก็ไปมาหาสู่กันปกติ กระทั่งตนเริ่มเห็นแฟนสาวไปพูดคุยสนิทสนมกับชายอื่น ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับพี่เขย

ตนก็เคยบอกไม่ให้คุยเพราะหึงหวงแฟนสาว แต่แฟนสาวก็บอกว่าแค่คุยกันแบบพี่น้องไม่ได้คิดอะไร ส่วนที่ฝ่ายหญิงอ้างว่าเลิกกับตนเองเพราะตนทำร้า ยนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ามีปากเสียงกัน เพราะความหึงหวงที่เห็นคู่หมั้นตัวเองไปคุยกับชายคนอื่น

ล่าสุดวันที่ 21 ก.พ.66 นางคูณ แม่ของนายโอเว่น บอกว่า เมื่อวานหลังจากที่เดินทางไปบ้านฝ่ายหญิง เพื่อสอบถามทางครอบครัวถึงสาเหตุว่าทำไมถึงมีการหมั้นซ้ำซ้อน ทั้งที่ยังไม่ได้ถอนหมั้นกับลูกชายตัวเอง แต่ทางพ่อฝ่ายหญิงได้เดินออกมาไล่ให้กลับ เพราะที่บ้านเขากำลังทำพิธีหมั้นหมายอยู่ พอช่วงเย็นพ่อของฝ่ายหญิงได้เข้าไปที่บ้านญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายแล้วบอกว่า ถ้าอยากได้ทองหมั้นคืนให้ครอบครัวฝ่ายชายไปเอาเองที่บ้าน

โดยช่วงที่เดินทางกลับก็ขับรถสวนกับรถลูกชายแล้วพ่อของฝ่ายหญิงก็ชี้หน้าลูกชาย ตนจึงคิดว่าคงจะไม่เดินหน้าเรียกร้องเอาทองหนัก 1 บาทที่เคยหมั้นหมายฝ่ายหญิงไว้คืนแล้ว เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกชาย และคงจะไม่เดินหน้าเรียกร้องต่อแล้ว คงจบแค่นี้

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ