อุตตม ยัน ชิมช้อปใช้ คนทั้งประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน

อุตตม ยัน ชิมช้อปใช้ คนทั้งประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า การดำเนินมาตรการ ชิมช้อปใช้ ของรัฐบาล ประโยชน์จากมาตรการระยะสั้น มีจุดประสงค์ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี ผ่านการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ของชุมชนจังหวัดต่างๆ ด้วยการท่องเที่ยว การซื้อสินค้าและบริการ ผ่านผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 13 ล้านคน

จากคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เม็ดเงินที่อัดฉีดลงไปจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินประมาณ 5-6 เท่าในระบบเศรษฐกิจ ผ่านร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชน โฮมสเตย์ จำนวนกว่า 1.7 แสนราย ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก 2-3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเริ่มต้นจากผู้มีสิทธิ์ 13 ล้านคน ใช้สิทธิ์ในร้านค้าประเภท ชิมช้อปใช้ คือ ร้านอาหาร OTOP ร้านค้าชุมชน วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการายย่อย ที่พัก โฮมสเตย์ รวมทั้งสิทธิ์จาก Cash back 15-20% ในกระเป๋า 2 เม็ดเงินนี้จะพุ่งเป้าตรงไปสู่ชุมชน ซึ่งเป็นหัวใจของเศรษฐกิจฐานราก ผ่านภาคแรงงาน ภาคบริการ ภาคการผลิต ซึ่งได้แก่ ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ที่จะจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนผ่าน สินค้าอุปโภค บริโภค ไปสู่ภาคการผลิต ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เม็ดเงินจากโรงงานจะกระจายไปยัง แรงงานและครอบครัว ก่อนที่จะหมุนกลับไปที่ ร้านค้า ร้านอาหารในชุมชนอีกครั้ง เป็นเช่นนี้ประมาณ 5-6 รอบการหมุนเวียน หรือมากกว่านั้น ก่อนที่เม็ดเงินจากระบบการหมุนเวียนจะกลับมายังภาครัฐผ่านระบบภาษี ซึ่งถือเป็นงบประมาณส่วนหนึ่งของรัฐ ที่จะใช้ในการกำหนดนโยบายและโครงการเพื่อการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ดังนั้น มาตรการ ชิมช้อปใช้ จึงไม่ใช่การแจกเงินเพื่อให้ผู้มีสิทธิ์จำนวนเพียงแค่ 13 ล้านคน ได้รับประโยชน์เพียงเท่านั้น แต่หมายถึงการเชื่อมโยงภาคเศรษฐกิจฐานรากทั้งประเทศ ร่วมกับโครงการต่างๆ ของรัฐบาลต่อจากนี้ ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงในทุกกลุ่มและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ ด้วยการใช้จ่ายเงินงบประมาณทุกบาทอย่างคุ้มค่าที่สุด.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ