จากกรณีเด็กสาวทุกข์หนัก รถชนขาขาด เคราะห์ซ้ำ แม่แท้ๆ หอบเงินเยียวยา 4 แสนไปด้วย โดยให้ลูกสาวไว้เพียง 1 แสนบาท เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ผู้เสียหายคือ น.ส.ณฤทัย ผาพญาเรือง เด็กสาววัย 15 ปี เจ้าตัวเล่าว่า วันที่ศาลนัดตัดสินคดี คนขับรถยนต์สีดำ ได้จ่ายค่าเยียวยา 5 แสนบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้แม่ของเธอเป็นผู้ถือไว้ นอกจากนั้น เงินประกันภัยรถยนต์ยังจ่ายเพิ่ม 2 แสน 2 หมื่นบาท

โดยเงินส่วนนี้โอนเข้าบัญชีของน้องณฤทัย ทำให้หลังออกจากห้องตัดสิน น้องได้ขอเงินค่าเยียวจากแม่มาเก็บไว้เป็นทุนเรียนหนังสือ แต่แม่กลับมอบให้เพียง 1 แสนบาท เท่านั้น ส่วนที่เหลือแม่ถือเงินกลับกรุงเทพไป 4 แสนบาท และให้คำสัญญากับน้องว่า จะพาน้องไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ น้องได้โทรคุยกับแม่ถามเรื่องรับน้องไปอยู่ด้วย

สุดท้ายกลับได้รับคำปฏิเสธ และป้าที่เลี้ยงดูบอกว่า ไม่สามารถโทรหรือติดต่อแม่ได้ อีกทั้งไม่ได้รับเงินคืนจากแม่ น้องจึงอยากขอวอนขอแม่ให้นำเงินเยียวยาที่รับไปกลับมาคืน เพราะเธอจะเก็บไว้เป็นค่าเล่าเรียนในอนาคต รวมทั้งต้องใส่ขาเทียมแบบชั่วคราวเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งต้องเปลี่ยนขาเทียมใหม่ให้มาตรฐาน และยังต้องเปลี่ยนทุกปี

ล่าสุด นางวิไลพร แม่ของนักเรียนที่ออกมาร้องเรียน เผยว่า ตนไม่ได้หอบเงินชดเชยของลูกเอาไปใช้ส่วนตัว เพียงแต่เอาไปเก็บรักษาไว้ค่อยๆ ทยอยจ่ายให้ลูก ถ้าให้ไปกลัวลูกจะนำไปใช้ไม่ถูก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ลูกมาตลอด ถึงแม้ว่าลูกจะอาศัยอยู่กับป้าก็ตาม

สาเหตุเกิดจากลูกอยากได้รถมอเตอร์ไซค์รุ่น PCX ราคาประมาณ 100,000 บาท ซึ่งตนก็ได้รับปากกับลูกแล้วว่าจะซื้อให้ แต่ให้รอแม่ขึ้นไปก่อน เพราะว่าลูกไม่มีสิทธิ์ซื้อเอง อายุยังไม่ครบ เรื่องนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกออกมาร้องต่อสื่อ

ตนขอยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวยังอยู่ครบ ซึ่งทีแรกลูกจะขอเพิ่มอีก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท และอยู่กับตน 300,000 บาท ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซค์อาจจะซื้อให้สิ้นเดือนนี้ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงเพราะมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ กลัวลูกจะประสบอุบัติเหตุ

เรียบเรียง มุมข่าว