พี่สาวเล่าทั้งน้ำตา น้องชายเผาบ้านวอด เผยก่อนเผาวิ่งมากราบพี่สาวขอลาครั้งสุดท้าย

พี่สาวเล่าทั้งน้ำตา น้องชายเผาบ้านวอด เผยก่อนเผาวิ่งมากราบพี่สาวขอลาครั้งสุดท้าย

วันที่ 13 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายพรศักดิ์ พลไชยนิตย์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านเชียง หมู่ 2 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี น้องชายเจ้าของบ้านก่อเหตุเผาบ้านพี่ชาวที่ตนเองมาอยู่ด้วยหวิดวอดทั้งหลัง โชคดีที่ชาวบ้านและรถดับเพลิงของเทศบาลต.บ้านเชียง สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้ สาเหตุเกิดนายพรศักดิ์หลอนยาอ้างว่าวิญญาณพ่อไปตามให้กลับมาอยู่บ้าน และน้อยใจญาติๆ

หลังมาอยุ่บ้านกับพี่สาวหาว่าเป็นคนขี้ขโมย จึงก่อเหตุจุดไฟใส่ผ้าวางไว้เบาะรถมอเตอร์ไซด์เพื่อเผาบ้านให้วอด จากนั้นก็ไม่ได้หนีไปไหนนั่งรอให้ไฟลุกอยู่ภายในบ้าน คาดว่าจะจบชีวิตไปกับกองเพลิง โดยถือมีดไว้ในมือเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาดับไฟ โชคดีที่นายพงษ์เทพ สิทธิพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บุกเข้ามาลากตัวออกมาได้ก่อนจะถูกไฟไหม้ไปทั้งตัว ส่วนรถดับเพลิงก็สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้ก่อนจะลุกลามไหม้ไปทั้งหลัง โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บ้านเลขที่ 128 บริเวณสามแยกโรงฆ่าสัตว์ บ้านน้อยโคกศาลา หมุ่ 2 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 21.00 น.ของคืนที่ผ่านมา

ขณะที่พี่สาวคือนางถนอมจิตร์ พลไชย์นิต อายุ 61 ปี และนายคำปัน จับใจนาย อายุ 68 ปีพี่เขยตกใจแทบช็อคที่เห็นน้องชายเผาบ้านตัวเองตะเกียกตะกายหนีออกมาจากบ้านแทบไม่ทันเพราะมีโรคประจำตัวคือความดันและเบาหวาน ชาวบ้านใกล้เคียงต้องปฐมพยาบาลเอายาดมให้ตลอดเวลา ส่วนนายคำปันช่วงไฟไหม้คว้าได้กุญแจรถปิคอัพขับออกมาได้ก่อนไฟจะไหม้ไปอีกคัน ขณะที่ชาวบ้านพากันด่านายพรศักดิ์ อย่างดุเดือดเพราะตัวเองไม่ได้สร้างบ้านแต่ดันมาเผาบ้านพี่สาว

ส่วนเจ้าตัวคือนายพรศักดิ์ ซึ่งมีอาการตาขวางเหมือนคนติดยาและหลอนยาอ้างว่า สาเหตุที่เผาเพราะแค้นญาติๆ ไม่ชอบขี้หน้าและหาว่าขโมยนั่นขโมยนี่ และอีกอย่างแค้นที่ญาติๆ ไม่แจ้งข่าวให้ตนทราบว่าว่า พ่อตายไปแล้ว ซึ่งลังจากกลับมาจากจ.ระยองที่ไปลงเรือหาปลานานกว่า 20 ปีมาอยู่บ้านเพียง 2 เดือนน้อยใจหลายๆ เรื่องจึงก่อเหตุเผาบ้านพี่สาวดังกล่าว โดยตร.ได้ควบคุมตัวไปที่สภ.หนองหาน พี่สาวดำเนินคดีในข้อหาวางเพลิงให้ตร.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดย นายสมศักดิ์ แสนอินทร์ นายอำเภอหนองหาน ได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านของผู้ประสบเหตุไฟไหม้หลังน้องชายหลอนเผาบ้านหวิดวอด พร้อมหาทางในการช่วยเหลือเบื้องต้นเพราะทราบว่าครอบครัวนี้พี่สาวต้องดูแลน้องชายถึง 3 คนที่มีอาการทางจิตและครอบครัวมีฐานะยากจน จะได้ประสานให้กับทางเทศบาลต.บ้านเชียงให้การช่วยเหลือต่อไป

ขณะเดียวกัน ตร.สภ.หนองหานได้นำตัวนายพรศักดิ์มาชี้จุดเกิดเหตุที่บริเวณจุดไฟเผาภายในบ้าน โดยนายพรศักดิ์ได้นำผ้ามาวางไว้เบาะรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ภายในบ้านจากนั้นก็จุดไฟเผา พอไฟลุกไหม้แล้วก็เดินไปนั่งบนแคร่ห่างไม่ถึง 5 เมตรเพื่อรอดูไฟไหม้บ้านไปต่อหน้าต่อตา ต่อมาเห็นท่าไม่ดีมีควันขโมงขึ้นเต็มบ้านจึงเดินไปยืนอยู่หน้าประตูบ้าน แล้วก็มีผู้ใหญ่บ้านมาลากตัวออกไปล็อกตัวไว้ได้ในที่สุด โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นมีรถมอเตอร์ไซด์ฮอนด้าเวฟสภาพใหม่ 1 คัน ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ถ้วยโถโอชาม พัดลม เตียงนอน และถุงถ่ายจำนวนมากที่ถูกเผา โชคดีที่เตาแก๊สไม่ระเบิดไปด้วย

นายพรศักดิ์ บอกสาเหตุที่เผากับผุ้สื่อข่าวอีกครั้งว่า สาเหตุที่เผาเพราะคนรอบบ้านพูดว่าตนเองเป็นขโมยของแถมยังพูดกระแทกแดกดันตลอด และอีกอย่างพี่สาวไม่แจ้งว่าพ่อตายไปแล้ววิญญาณพ่อไปหาให้กลับมาอยู่ด้วย ขณะนั้นเองนายพรศักดิ์ก็ถามหาน้องชายแถมพูดไทยด้วยว่า ไอ้คองไปไหน ก่อนเจ้าหน้าที่ตร.จะควบคุมรถไปคุมขังที่สภ.หนองหานต่อไป ส่วนนายพรศักดิ์ตั้งแต่เมื่อคืนไม่มีญาติไปเยี่ยมจึงขอหยิบส้มเขียวหวานกินประทังชีวิตและเอามาม่าขอเอาไปกินในห้องขังด้วย ตร.ก็อนุญาติให้เอาส้มเขียวหวานห่อไปกินด้วย

นางถนอมจิต เปิดใจกับผุ้สื่อข่าวหลังน้องชายหลอนเผาบ้าน บอกว่า ก่อนน้องชายจะเผาบ้านก็มีอาการเดินแล้วพูดอยู่คนเดียวภายในบ้าน พี่สาวและพี่เขยก็นอนรอฟังว่า จะเป็นอะไรต่อ จะเลิกเดินตอนไหน สักพักนายพรศักดิ์ก็เดินเข้าไปสิ่งของภายในห้อง พี่สาวและพี่เขยก็ตกใจก็วิ่งหนีออกจากภายในบ้าน สักพักก็เห็นไฟไหม้บ้าน ตอนนั้นตกใจแทบช็อคเพราะมีความดันและเบาหวานด้วย

พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้วก็มีตนเองที่ดูแลน้อง 3 คนที่มีอาการทางประสาท น้อง 2 คนไม่มีพิษไม่มีภัย แต่น้องชายคนนี้เขาเพิ่งมาอยู่บ้านประมาณ 2-3 เดือนหลังจากไปลงเรือเกือบ 20 ปี ตนเองและสามีก็เลี้ยงดูตามสภาพเพราะฐานะเรายากจนมีเงินก็ยื่นให้ครั้ง 10 20 บาท ข้าวก็หามาให้กิน และก่อนที่น้องจะเผา เขาบอกว่าอยากจะไปอยู่กับพ่อ และเดินมานั่งคุกเข่ามาขอโทษพี่สาว ก็งงทำไมพูดแบบนี้

นายดาวน้องชายอีกคนเดินจะมากินข้าว กำลังจะไปข้าวกับกิน นายพรศักดิ์ก็บอกพี่สาว ไม่ต้องทำเดี๋ยวผมทำกับข้าวให้น้องเองวันนี้เป็นวันสุดท้าย จากนั้นก็วิ่งไปกอดเข่าพี่เขย ส่วนเรื่องที่เขาอ้างว่าพ่อตายไม่บอกนั้น เราติดต่อแกไม่ได้เพราะไปลงเรือหาปลาในทะเลไม่รู้จะติดต่ออย่างไร พูดถึงว่าให้อภัยน้องชายมั้ย ก็ให้อภัยอยุ่ แต่เรื่องการดำเนินคดีก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตร.ดำเนินคดีและไม่อยากให้กลับมาอีกเพราะกลัวมาก่อเหตุเผาบ้านและทำร้ายคนในบ้านอีก พี่สาวกล่าวด้วยเสียงเศร้าและน้ำตาคลอในตอนท้าย

ทางด้านนายพงษ์เทพ สิทธิพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เปิดเผยถึงนาทีบุกเข้าไปลากตัวผู้ก่อเหตุเผาบ้านพี่สาว บอกว่า เมื่อคืนนี้ประมาณ 21.00 น.หลังรับแจ้งจากลูกบ้านว่านายพรศักดิ์เผาบ้านพี่สาวก็รีบมาดู พอมาถึงเห็นควันขโมงภายในบ้าน ส่วนเจ้าของบ้านหนีออกมาทันแล้ว มองไปเห็นผุ้ก่อเหตุคล้ายถือมีดอยู่ประตูหน้าบ้าน อาศัยจังหวะที่หันหลังจึงตัดสินใจวิ่งไปล็อคคอและลากตัวออกมา

ตอนนั้นเหมือนเขาจะสู้และไม่ให้ใครเข้าใกล้เหมือนจะทำร้ายตัวเองไปกับกองไฟด้วย พอลากตัวออกมาได้ชาวบ้านก็ช่วยกันจับเอาไว้ได้ก่อนจะเกิดเหตุสลดซ้ำไปอีก สำหรับสภาพครอบครัวนี้เป็นที่น่าสงสารฐานะยากจน พ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว มีพี่สาววัย 61 ปีที่ดูแลน้องชาย 3 คนที่มีอาการไม่พอ หรือประสาทอ่อนๆ คือนายศักดิ์ นายคอง และนายดาว 2 คนหลังไม่มีพิษมีภัยกับชาวบ้าน แต่นายศักดิ์เพิ่งมาอยู่บ้านกับพี่สาวได้ 3 เดือนก็มาก่อเหตุ เผาบ้านพี่สาว น่าจะเกิดจากอาการหลอนยา และมีอาการประสาท ชาวบ้านเห็นแล้วสงสารเบื้องต้นจะระดมสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นมาช่วยเหลือครอบครัวเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นไปก่อน

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานี

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ