อ้างเป็น ด็อกเตอร์ เช็กอินโรงแรม 21 คืน ก่อนชิ่งหนี

อ้างเป็น ด็อกเตอร์ เช็กอินโรงแรม 21 คืน ก่อนชิ่งหนี

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุแขกที่เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ อ้างตัวเป็น ด็อกเกอร์หนุ่ม ก่อนจะพาเพื่อนมากินดื่มและเข้าพักนานถึง 21 คืน ก่อนจะแอบหนีไม่จ่ายค่าพักเป็นจำนวนเงินเกือบ 5 หมื่นบาท พร้อมกับขอออกบิลในนามกระทรวงมหาดไทย กลายเป็นภัยอีกรูปแบบที่เกิดขึ้นกับโรงแรมในเมืองท่องเที่ยว

พนักงานโรงแรงแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิงในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์เตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ประกอบการ หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของลูกค้ารายหนึ่ง พร้อมกับประกาศตามหา นายชยรพ อายุ 49 ปี หลังจากเข้าพักที่โรงแรมต่อเนื่องกัน 21 คืน แต่หลบหนีไป ไม่จ่ายค่าห้องพักและอาหารเครื่องดื่ม รวมเป็นเงิน 48,225 บาท

จากพฤติการณ์นั้น นายชยรพ ได้เคยมาพักที่โรงแรม 2-3 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยทำการจองผ่านทางเว็บไซต์ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้เช็กอินเข้าพักที่โรงแรมอีกครั้ง โดยอ้างตัวเป็นด็อกเตอร์ และไม่ได้ทำการจองผ่านเว็บไซต์เหมือนทุกครั้ง แต่เดินเข้ามาติดต่อห้องพักและเข้าพักทันที โดยไม่ได้แจ้งว่าจะเข้าพักกี่คืน

ตลอดระยะเวลาที่เข้าพักนั้น นายชยรพ ก็มักจะสั่งอาหารและเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่ห้องพักทุกวัน อีกทั้งยังเห็นมีเพื่อนแวะเวียนมาหาอยู่เรื่อยๆ กระทั่งเวลาผ่านไปหลายคืน นายชยรพยังคงพักที่โรงแรมต่อไป ทางโรงแรมเห็นว่าค่าใช้จ่ายเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่กล้าทวงถาม เพราะเกรงว่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกัน นายชยรพ ก็อ้างว่าจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ทีเดียว ตอนเช็กเอาท์ออกจากโรงแรม พร้อมกับสั่งให้ลงบิลในนามกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย อีกด้วย

กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายชยรพ ได้มาขอบิลค่าใช้จ่าย อ้างว่าจะออกไปส่งเพื่อนก่อน และจะกลับมาเช็กเอาท์ พร้อมจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ปรากฏว่านายชยรพก็ไม่ได้กลับมาที่โรงแรมอีกเลย ทางโรงแรมพยายามติดต่อตามเบอร์โทรศัพท์ที่ทิ้งเอาไว้ให้ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

เบื้องต้นทราบเพียงว่ามีภูมิลำเนาอยู่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตามหลักฐานที่พบเห็นในบัตรประชาชนที่ใช้ในการเข้าพัก ทางโรงแรมจึงได้เข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.แม่ปิง เพื่อให้ติดตามตัวแขกรายนี้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น พร้อมกับแชร์เรื่องราวต่อในโซเชียลมีเดียอีกทาง เพราะต้องติดตามตัวให้มารับผิดชอบ อย่างน้อยก็โอนเงินมาให้ก็ยังดี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ