คุณตา คุณยายวัย 74 ปั่นสามล้อมาขายกับข้าวถุงละ 15-20 บางวันขายไม่หมด

คุณตา คุณยายวัย 74 ปั่นสามล้อมาขายกับข้าวถุงละ 15-20 บางวันขายไม่หมด

กลายเป็นอีกเรื่องราวที่ชวนสงสารให้แก่ผู้พบเห็นหลายๆคน ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ที่ตลาดเย็น ซึ่งอยู่บนฟุตปาท ริมถนนศรีจันทร์ ฝั่งตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อพบและพูดคุยกับตายายขายอาหารอีสานบริเวณริมทางเท้า หลังจากมีการแชร์ภาพตา ยาย ขายอาหารริมฟุตปาท แต่ขายไม่หมด เพราะมาวางขายในช่วงมืดค่ำแล้ว พบกับ นายทองพูน คงคำ อายุ 74 ปี และนางวันดี สีนา อายุ 74 ปี สองสามีภรรยา ขายกับข้าวอยู่บนฟุตปาท ซึ่งราคากับข้าวอยู่ที่ถุงละ 15-20 บาท มีลูกค้าทยอยเข้ามาเลือกซื้อกับข้าว

นายทองพูน คงคำ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองเป็นคน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ส่วนนางวันดี เป็นชาวอำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม รักกันอยู่กินด้วยกัน และตัดสินใจมาอยู่ในเมืองขอนแก่นตั้งแต่ พ.ศ.2528 โดยเช่าบ้านอยู่ที่บ้านเลขที่ 139/12 ม.4 ชุมชนศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป ต่อมา ปี พ.ศ.2535 ได้เปลี่ยนมาขายกับข้าวซึ่งเป็นอาหารอีสาน โดยเช่าแผงขายกับข้าวบนฟุตปาทหน้าร้านขายของตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น จ่ายค่าเช่ารายวัน วันละ 80 บาท และขายอาหารอีสานตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน

คุณตา เล่าอีกว่า ในช่วงเช้ายายจะเป็นคนไปจ่ายตลาดซื้อของมาเตรียมทำอาหารขาย โดยจะเริ่มลงมือทำกับข้าวตั้งแต่ช่วงเที่ยงจนถึงเย็นของทุกๆ วัน จากนั้นขนกับข้าวใส่รถ เสร็จแล้วอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านประมาณ 6 โมงเย็น เพื่อออกไปขายกับข้าวที่แผง

ตากับยายมีลูกคนเดียว เป็นลูกสาว มีสามีอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ตอนนี้อายุประมาณ 40 ปีแล้ว ซึ่งลูกสาวมีลูก 3 คน และทั้ง 3 คน ตากับยายเป็นคนเลี้ยงจนเติบใหญ่ มีครอบครัวไปแล้ว 2 คน เมื่อหลานมีลูก ก็นำลูกมาให้เลี้ยงอีก ตอนนี้เลี้ยงเหลน 3 คน โดยพ่อแม่เขาไม่มาส่งเสียเลี้ยงดู ตากับยายต้องขายกับข้าวตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 5 ทุ่ม ไม่กล้าหยุดขาย เพราะกลัวเหลนอด กลัวไม่มีเงินให้เหลนไปเรียนหนังสือ จึงต้องขายมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีหนี้สิน อยู่กันแบบพอเพียง ในแต่ละวันขายกับข้าวขาดทุนบ้าง เท่าทุนบ้าง กำไรบ้างเล็กน้อย แต่ก็พยายามหมุนเงินตามจำนวนเงินที่มี มีมากก็ทำกับข้าวออกขายมาก มีน้อยก็ทำน้อย เพราะไม่อยากกู้เงินมาลงทุน ท้อ และเหนื่อย แต่กลัวเด็กไม่มีจะกิน จึงต้องสู้ เพราะชีวิตคือการต่อสู้

นายทองพูน กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ในแต่ละวันเมื่อเตรียมหม้อกับข้าวใส่รถสามล้อ ซึ่งเป็นสามล้อกระบะถีบ คันที่ใช้บรรทุกกับข้าวมาขายนั้นใช้มากว่า 20 ปีแล้ว โดยยายจะเป็นคนถีบรถสามล้อบรรทุกกับข้าว ตาจะเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ดันท้ายสามล้อ ทำเช่นนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2535 จนถึงทุกวันนี้ ตาจึงอยากได้รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง แต่ตากับยายแก่แล้ว ไม่มีปัญญาที่จะไปดาวน์รถจักรยานยนต์ และคิดว่าร้านขายรถเห็นคนแก่ คงไม่ให้ผ่อน อีกอย่างไม่อยากเป็นหนี้ แต่ถ้าได้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเพื่อเอามาบรรทุกกับข้าว พายายมาขายกับข้าว น่าจะช่วยให้การเดินทางมาขายกับข้าวเร็วขึ้น และขากลับก็น่าจะมีความปลอดภัยด้วย.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ