จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 4 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนเวรฯ สภ.หนองบัวระเหว ได้รับแจ้งทางวิทยุว่าเกิดเหตุรถยนต์เสียหลักลงข้างทาง เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายชัยภูมิ-นครรสวรรค์ เขตหมู่บ้านโคกสะอาด ต.โคกสะอาด อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ

เมื่อไปตรวจสอบพบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพเสียหลักจอดอยู่ในพงหญ้าข้างทาง โดยมี น.ส.ณัฐณิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของลานรับซื้อยางพารา ใน อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นคนขับ รอพบเจ้าหน้าที่อยู่

โดยให้การว่ามีรถตัดหน้าจนเสียหลัก จากนั้นมีชาย 2 คน แกล้งเป็นพลเมืองดีทำทีจะเข้าช่วยเหลือก่อนชิงเงินสด 1.3 ล้านบาท หลบหนีไป เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 4 พ.ย. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 25 พ.ย. พ.ต.อ.นิรันดร์ คิดบรรจง ผกก.สภ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สอบสวนข้อมูลจากผู้เสียหายแล้วพบมีพิรุธน่าสงสัยหลายอย่าง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ

พบว่าเมื่อวันที่ 4 พ.ย. เวลาประมาณ 14.30 น. ผู้เสียหายได้ไปถอนเงินสดจากธนาคาร 1.3 ล้านบาท ต่อมาเวลา 15.23 น. ได้ไปโอนเงินอีกธนาคารจำนวน 750,000 บาท ให้กับ สิบตรี คนหนึ่ง และได้ขับรถไปโอนเงินที่ตู้ ATM อีกธนาคารเป็นเงิน 1 แสนบาท หลังจากนั้นยังนำเงินกลับมาฝากที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารอีก 84,000 บาท

จึงเรียก น.ส.ณัฐณิชา มาสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งเธอรับสารภาพว่ากุเรื่องถูกชิงเงิน และเงินไม่ได้สูญหายแต่อย่างใด ส่วนเหตุที่แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างมีปัญหาในครอบครัว เนื่องจากต้องรับภาระรับซื้อขายยางพารา และแบกรับภาระต่างๆ ของครอบครัวเพียงคนเดียว อยากเรียกร้องความสนใจจากสามี จึงกุเรื่องสร้างสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น

เรียบเรียง มุมข่าว