หนุ่มตามเสียงกระซิบไปเจอเหล็กไหล เชื่อมีอะไรดลใจให้นำออกมาจากถ้ำ

หนุ่มตามเสียงกระซิบไปเจอเหล็กไหล เชื่อมีอะไรดลใจให้นำออกมาจากถ้ำ

ซึ่งล่าสุด วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ได้มีเพจข่าวชื่อดัง โหนกระแส ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายเรวัตร หมู่ที่9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ที่ได้นำก้อนเหล็กไหลก้อนโต โดยมีลักษณะคล้ายๆ ก้อนหิน แต่มีตุ่มแวววาวงอกขึ้นมา สีดำส่องประกาย ความกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม

ภาพจากเพจ โหนกระแส

นายเรวัตร เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน มีแม่ชีมาหาตนที่ถ้ำ โดยแม่ชี เดินทางมาจากกทม. และไม่เคยรู้จักกับตนเลย แม่ชีบอกว่า นั่งทางใน มีนิมิตว่าให้มาหาตนที่จ.สตูล และบอกว่าตนเป็นคนดูแลรักษาสิ่งศักดิ์สิทธ์อยู่ เมื่อถึงเวลาก็จะได้มาครอบครอง ขอแค่บำเพ็ญความดีเท่านั้น ก่อนแม่ชีกลับ ได้มอบชุดขาวไว้ให้ตน แล้วบอกว่า เมื่อมีปัญหาหรือเรืองไม่สบายใจอะไร แค่ไปนั่งสมาธิในถ้ำดังกล่าว ทุกอย่างก็จะดีขึ้น

สำหรับถ้ำที่แม่ชีกล่าวถึง คือถ้ำที่ตนเองชอบเข้าไปเป็นประจำ เป็นถ้ำในหมู่บ้านที่ เสมือนว่าเป็นบ้านของตัวเอง เหมือนมีความคุ้นเคยว่าเคยอยู่ที่นั้นมาก่อน รู้สึกผูกพันธ์ เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย.65 เป็นวันพระใหญ่ ขณะที่ตนนอนอยู่ ก็เหมือนมีใครมากระซิบข้างหูว่าให้ไปเอาก้อนเหล็กไหลดังกล่าว ตนเองจึงลุกขึ้นไปตามที่ได้ยิน และได้เอากลับมาบ้านตอนตี 5 โดยก้อนดังกล่าวนั้นตนเองเห็นทุกครั้งที่เข้าไปในถ้ำ เหมือนมีอะไรดลใจให้ดูเป็นแสงประกายส่องให้เห็น แต่ตนเองไม่เคยคิดจะนำกลับมา และไม่เคยคิดว่าเป็นก้อนเหล็กไหล ตอนนั้นยังคงไม่ถึงเวลาที่เขาจะให้ จึงไม่มีความต้องการ ทั้งที่เห็นมาโดยตลอด เหมือนเจ้าที่เจ้าทางยังไม่ดลใจให้ และเมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจ ตนก็ไปเอามาทันที

นายเรวัตร เล่าอีกว่า ตนเองเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงมอบมาให้ตนได้รักษาแม่ที่ป่วยอยู่ และถ้าเป็นจริง ตนเองก็จะใช้รักษาและช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นจากโรคภัยด้วย ไม่ได้หวังเรื่องโชคลาภใดๆ และตอนเช้าของวันถัดไป ได้นำมาทำน้ำเพื่อให้แม่และน้าสาวที่ป่วยอยู่ได้ลองดื่ม อยู่มาอีกวันแม่และน้าสาวบอกว่ารู้สึกว่าดีขึ้น เบาตัวกว่าที่ผ่านมา

น.ส.จินดา น้าสาวของนายเรวัตร เล่าให้ฟังว่า ตนเองป่วยเป็นโรคไทรอยด์ รักษาตัวมาหลายปีไม่หาย เมื่อวานได้ดื่มน้ำเหล็กไหลก็รู้สึกว่าดีขึ้น อาจจะเป็นที่จิตใจดีขึ้น แต่จริงๆ แล้ว ในเรื่องความเชื่อแบบนี้ ตนเองไม่เคยเชื่อเลย แต่เมื่อได้สัมผัสและได้ดื่มน้ำเหล็กไหลมันมีความรู้สึกแปลก เหมือนมีมนต์สะกดให้นับถือและเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของก้อนเหล็กไหลดังกล่าว หลังจากนี้ก็จะดื่มน้ำเหล็กไหลทุกวัน เผื่อจะหายจากโรคภัยที่เป็นอยู่ ก็ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐแล้ว

ด้าน นางแช่ม อายุ 65 ปี แม่ของนายเรวัตร กล่าวว่า วันที่ลูกชายออกไปเอาก้อนเหล็กไหลดังกล่าว ตนเองไม่ทราบ และในขณะที่ตนเองนอนหลับอยู่ฝันว่ามีพระสงฆ์ 3 รูป มานั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า และได้ยินลูกชายตะโกนขึ้นมาว่า ได้ของดีมารักษาแม่แล้ว แม่จะหายแล้ว ก็ตกใจตื่น พอตื่นมาลูกชายก็ได้เอาก้อนเหล็กไหลดังกล่าวมาให้ตนเองดู และพอรุ่งเช้าก็นำมาทำน้ำให้แม่ดื่ม เนื่องจากแม่เป็นโรคกระดูกเสื่อม เดินลำบาก ต้องใช้ไม้เท้า เมื่อดื่มน้ำเหล็กไหลไปแค่ครั้งเดียว รู้สึกดีขึ้น ตัวเบา กลางคืนนอนหลับสบาย ตื่นเช้าก็สบายตัว แถมลองเดินไปห้องน้ำก็สามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า จึงเชื่อว่าเป็นอภินิหารของเหล็กไหล

อย่างไรก็ตาม นายเรวัตร บอกว่า ตนเองขอพิสูจน์กับแม่และน้าสาวก่อน หากทั้ง 2 คน ดีขึ้น ก็จะให้ทุกคนที่ต้องการมาเอาน้ำเหล็กไหลได้ แต่หากใครที่มีความเชื่ออยู่แล้ว ก็สามารถมาเอาน้ำได้เลย ตนยินดีมอบให้ แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน

ซึ่งความเชื่อของคนไทย เหล็กไหล เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย มีมากมายหลายชนิด แต่ที่เชื่อกันแพร่หลายที่สุดนั้นจะฝังตัวอยู่ในถ้ำมีลักษณะสีดำคล้ายนิล ลนไฟให้ยืดได้ เชื่อกันว่าในการไปเอาเหล็กไหลนั้นจะต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหลแล้วใช้ไฟลนเหล็กไหลถึงจะยืดออกมากินน้ำผึ้งไปพร้อมกับเล่นไฟด้วย แล้วก็ลนไฟไปกระทั่งทั้งเหล็กไหลยืดออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งบางเท่าเส้นด้ายถึงจะตัดขาด (ทั้งนี้ในการไปตัดเหล็กไหลนั้นกล่าวกันว่าคนธรรมดานั้นไม่สามารถตัดเหล็กไหลเองได้เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา พญานาคหรือยักษ์รักษาอยู่และพร้อมจะเข้าทำร้ายผู้เข้าไปเอาได้ถ้าผู้นั้นไม่ใช่คนดีมีบุญหรือมีวิชาอาคมแกร่งกล้าพอ และตัวเหล็กไหลนั้นก็มีฤทธิ์ขัดขืนคนที่เข้าไปเอาได้ด้วยเช่นกล่าวว่าเคยมีคนเข้าไปตัดเหล็กไหลแล้วเอามือไปจับเหล็กไหลแล้วมีอาการคล้ายถูกฟ้าผ่าหรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูดเป็นต้น) เหล็กไหลที่ได้นี้กล่าวกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากมักฝังไว้ตามตัวผู้ที่ครอบครองกล่าวกันว่าจะไม่มีอะไรที่ทำร้ายผู้ที่ครอบครองตัวเหล็กไหลได้

ขอบคุณเพจ โหนกระแส

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ