สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น ฮากิบิส หรือพายุหมายเลข 19 ตามการนับจำนวนของญี่ปุ่น ได้ขึ้นฝั่งและพัดผ่านกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12 ต.ค.) ก่อนที่สถานการณ์ฟ้าฝนจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเช้าในวันนี้ (13 ต.ค.) หลังจากที่พายุไต้ฝุ่นได้เคลื่อนตัวผ่านไป

ด้วยการเตรียมความพร้อมและการรับมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐของญี่ปุ่น ทำให้กรุงโตเกียวแทบไม่ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายมากนักจากพายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่ลูกนี้ มีเพียงน้ำท่วมขังและน้ำท่วมหลากในบางพื้นทีนอกตัวเมือง พร้อมกับการระบายน้ำลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว

และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก คือการแปรเปลี่ยนสภาพกรุงโตเกียว เมืองที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน กลายเป็นเมืองร้างไปชั่วพริบตา หลังจากที่ทางการได้ประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุดรับมือกับพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ทำให้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ร้านค้ากิจการต่างๆ รวมทั้งเส้นทางรถไฟต้องหยุดให้บริการลง และขอความร่วมมือให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่แต่ภายในอาคาร

ประกาศดังกล่าวทำให้หลายพื้นที่ในกรุงโตเกียวกลายเป็นเมืองร้างผู้คน โดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญ อากิฮาบาระ ไม่มีสัญญาณของผู้คนเดินขวักไขว่เหมือนภาพคุ้นตา มีเพียงจอฉากโฆษณาที่เคลื่อนไหวตามกลางสาย ขณะที่ "สถานีโตเกียว" ก็ว่างเปล่าไร้ผู้คนเช่นเดียวกัน หลังจากที่มีคำสั่งหยุดให้บริการเดินรถชั่วคราว เพื่อรับมือกับพายุที่กำลังเคลื่อนตัวผ่าน

เช่นเดียวกัน ทางข้ามถนนที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ในย่านชิบูยะ กลายเป็นช่วงเวลาที่แทบไม่มีผู้คนเดินข้ามถนนเลย อนุสาวรีย์ฮาชิโกะ ก็เว้นว่างไม่มีผู้คนมาเยือนและลูบจับเหมือนเช่นเคย แม้กระทั่ง สถานีชินจูกุ หนึ่งในสถานีรถไฟที่วุ่นวายที่สุดในโลกก็ไม่มีผู้คนใช้บริการเลยเช่นเดียวกัน

ภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง

ภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง

ภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ได้เคลื่อนขึ้นลงชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไปแล้ว พร้อมกับลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อน และกำลังจะสลายตัวเป็นเพียงหย่อมฝนเบาบางในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ นับเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความสนใจให้กับผู้คนทั่วโลก เนื่องจากเป็นพายุที่มีขนาดใหญ่และกำลังความเร็วลมรุนแรงติดอันดับโลก