กลายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 ต.ค. ได้มีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาที่ธนาคารกรุงไทยสาขาชัยนาท หลังธนาคารกรุงไทยเปิดให้ยืนยันตัวตน ชิม ช้อป ใช้ ได้ในวันที่ 12-13 ต.ค. 2562 เป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีปัญหาในการเข้าร่วมโครงการ ชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาล ทั้งการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ที่ยุ่งยาก และต้องแย่งคิวตั้งแต่ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน หรือการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนไม่ผ่าน มีภาพประชาชนต้องเดินทางไปแสดงตนที่ธนาคารบ้าง หรือการไปใช้สิทธิ์แล้วระบบล่มบ้าง เกิดเสียงสะท้อนกลับมามากมาย

ล่าสุดพื้นที่ จ.ชัยนาท มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาที่ผู้สื่อข่าวว่า พบพฤติกรรมที่ไม่น่าจะถูกต้องของทางร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ โดยผู้ร้องให้ข้อมูลว่า ตนมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.อุทัยธานี จึงเลือกใช้สิทธิ์ตามโครงการที่ จ.ชัยนาท เดินทางมาเพื่อซื้อสินค้าที่ร้านร่วมโครงการแห่งหนึ่งใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ระบุพิกัดว่าอยู่ที่ตลาดภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอวัดสิงห์ และแจ้งว่าเจ้าของร้านมีพฤติกรรมบังคับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าจะต้องทำการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตัดยอดใช้สิทธิ์ก่อนเข้าร้าน โดยจะถือวิสาสะตัดยอดทั้งหมด 1,000 บาทจากสิทธิ์ของลูกค้า ถ้ารายใดไม่ยอม จะถูกไล่ออกจากร้าน ซึ่งผู้ร้องก็เช่นกัน เมื่อไม่ยอมให้ตัดยอดแบบเหมายกสิทธิ์ 1,000 บาทตามที่เจ้าของร้านต้องการ ก็ถูกไล่ออกจากร้าน จนเปลี่ยนไม่ซื้อของใช้ หันไปทานข้าวที่ร้านอาหารกับครอบครัวแทน จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบและดำเนินการให้ถูกต้องด้วย

นางมาเรียม เรืองปราชญ์ คลังจังหวัดชัยนาท หน่วยงานรับผิดชอบโครงการชิมช้อปใช้ หลังทราบเรื่องได้กล่าวว่า พฤติกรรมตามที่แจ้งมา ถือว่าเจ้าของร้านทำผิดระเบียบโครงการ และจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อพูดคุยป้องปรามให้เลิกทำพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว และจะขึ้นบัญชีดำไว้ หากมีการร้องเรียนเข้ามาอีกจะเพิกถอนร้านออกจากโครงการฯ ทันที พร้อมทั้งฝากถึงประชาชนที่พบเห็นร้านค้าโครงการชิมช้อปใช้ที่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลให้แจ้งเรื่องมาได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ.