จากกรณีลอตเตอรี่อลเวง 12 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อพิพาท ระหว่างแม่ค้าลอตเตอรี่กับคนซื้อลอตเตอรี่ ที่ อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อนางไพมณี พลราชม อาชีพค้าขาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ว่าตนเองนั้นถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลขรางวัล 835538 วันที่ 1 มีนาคม 2564 จำนวน 2 ใบ 12 ล้านบาท

ซึ่งระบุว่าลงลายมือชื่อไว้ด้านหลังและฝากแม่ค้าลอตเตอรี่ไว้ กับนางรัตนา ภูละคร แม่ค้าลอตเตอรี่ แต่แม่ค้าลอตเตอรี่ระบุว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ดังกล่าวไว้ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะขายไปแล้วและลอตเตอรี่ใบนั้นก็ไม่ได้เขียนสลักชื่อไว้ รวมทั้งไม่มีการจ่ายเงินซื้อขายกัน

โดยเมื่อวันที่ 30 ส.ค.65 นางรัตนา หรือ ป้ารัตนา พร้อมด้วย นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร เพื่อขอรับหนังสือแจ้งความคืบหน้าของคดี โดยเป็นหนังสือจากทางสำนักงานอัยการจังหวัดสกลนคร แจ้งกลับมายัง สภ.เมืองสกลนคร แจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนางรัตนา ภูละคร ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ โดยมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352

ล่าสุดเย็นวานนี้ (6 พ.ย.65) ที่บริเวณลานหน้าพระธาตุนารายณ์เจงเวง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร นางรัตนา ได้นำเครื่องบวงสรวงผลไม้ 9 อย่าง คำหมาก คำภู คำตอกดอกไม้ น้ำเปล่า 9 ขวด ธูป เทียน ขันธ์ 5 ขันธ์ 8 ตั้งโต๊ะแก้บนหน้าองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง และมีนางรำ 9 คน รวมกับป้ารัตนา แต่งตัวด้วยชุดภูไทพื้นเมืองสกลนคร มารำถวาย โดยก่อนเริ่มพิธี ป้ารัตนา ก็เขียนชื่อและคำที่เคยอธิฐานไว้ ก่อนจะจุดธูป กล่าวคำนมัสการองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง และฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมือง

หลังเสร็จการรำถวายเสร็จ ป้ารัตนา ก็กล่าวขอบคุณเพื่อนๆนางรำและผู้ที่มาร่วมให้กำลังใจ ก่อนจะนำแผงลอตเตอรี่มาเปิดให้ทุกคนได้หยิบคนละ 1 ใบ รวมทั้ง 15 ใบ ป้ารัตนาเผยว่า เคยบนไว้ว่าขอให้คดีลอตเตอรี่คดี 12 ล้าน จากหนักกลายเป็นเบา เป็นไปในทางที่ดี

ป้ารัตนา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดที่หน้าองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง เมื่อปี 2564 ตนเองมาขายลอตเตอรี่ ในช่วงที่กำลังจะมีการรำบวงสรวงองค์พระธาตุ ประเพณีประจำปี และตนเองก็มีบ้านอยู่ใกล้ในชุมชนดังกล่าว ตนเองมีความศรัทธาในพระแม่นารายณ์เจงเวง เพราะตามตำนานผู้หญิงเป็นคนก่อสร้างพระธาตุนารายณ์เจงเวง ส่วนใหญ่ผู้หญิงมาขอพร หรืออธิฐาน ก็จะสมปรารถนา

เมื่ออัยการสั่งยกฟ้องและในรูปของคดีก็สิ้นสุดลงแล้ว จึงได้มารำแก้บนที่เคยขอไว้ อยากกลับมาใช้ชีวิตที่เรียบง่ายเหมือนเดิม ส่วนคู่กรณีป้าไพมณี ก็ไม่อยากโกรธเคืองอะไรแล้วถ้าจะไม่มาขอโทษก็ไม่เป็นไรขอให้เรื่องจบลงไป ไม่อยากดำเนินการอะไรอีกแล้ว