ตำรวจแนะวิธีสังเกตแบงค์ปลอม หากรู้นำมาใช้มีโทษหนัก 15 ปี

ตำรวจแนะวิธีสังเกตแบงค์ปลอม หากรู้นำมาใช้มีโทษหนัก 15 ปี

วันที่ 23 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีแบงก์พันปลอมระบา-ดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ว่า บนโลกโซเชียลได้มีการโพสต์ภาพและข้อความ ระบุให้ระวังแบงก์พันปลอมระบา-ดจาก 2 พื้นที่ ซอยกำนัน อ.เมืองอุดรธานี ลูกค้าเอาเงินปลอมมาซื้อหมูกระทะที่ร้าน

และร้านขายของชำที่ ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ มีลูกค้านำแบงก์พันบาทมาซื้อของภายในร้าน ในกรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ขอให้ตรวจสอบธนบัตรที่ได้รับ โดยเฉพาะธนบัตรที่มีมูลค่าสูง

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า สำหรับวิธีสังเกตในเบื้องต้นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ว่าปลอมหรือไม่ ให้ดูที่ แถบสีในกระดาษ ดังนี้ เป็นพลาสติกสีทองที่ฝังไว้ในกระดาษตามแนวตั้งของธนบัตร จึงเรียกว่า แถบสีทอง ในมุมปกติจะมองเห็นเป็นเส้นประ แต่เมื่อส่องกับแสงจะเห็นเป็นเส้นตรงและมีข้อความ 1,000 บาท 1,000 BAHT เมื่อพลิกเปลี่ยนมุมมองจะเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีเขียว

และลวดลายในแถบจะกลิ้งเคลื่อนไหวไปมาได้ แถบสีอาจมีรอยขูดขีด หลุดลอกชำรุดจากการใช้งานได้ แถบสีที่อยู่ในเนื้อกระดาษธนบัตรแต่ละฉบับสามารถอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกันได้ โดยอาจเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวา ตามระยะที่มาตรฐานกำหนดไว้

โดยโทษฐานปลอมหรือแปลงธนบัตร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 ระบุไว้ว่า ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้น

ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา ต้องระวางโทษจำตลอดชีวิต หรือจำคตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 40,000 บาท

สำหรับการใช้เงินปลอมซื้อของ โทษสูงสุดจำ 15 ปี การใช้ธนบัตรปลอมในการซื้อสินค้าและบริการเป็นการกระทำที่มีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยแบ่งความผิดตามเจตนาของผู้ใช้ธนบัตรปลอมออกเป็น 2 ประเด็นหลัก

1.ได้ธนบัตรปลอมมาโดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอม แต่ต่อมาเมื่อรู้ว่าเป็นของปลอมแล้วยังขืนนำออกไปซื้อสินค้าและบริการต้องระวางโทษ จำไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 245

2.การมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อใช้โดยที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอมต้องระวางโทษคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 30,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ