ผอ.โรงเรียนดัง ทำร้ายเด็ก เอาหัวโขกผนัง ใช้มือฉีกปากจนเด็กผวา

ผอ.โรงเรียนดัง ทำร้ายเด็ก เอาหัวโขกผนัง ใช้มือฉีกปากจนเด็กผวา

จากกรณีเหตุร้องเรียน โดยกล่าวอ้างว่า มีเหตุการณ์ที่ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ได้มีการทำร้ายเด็ก ได้จับศีรษะของเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ อยู่ชั้น ป.2 โขกกับฝาผนังปูนของห้อง ผอ. และได้ใช้มือง้างฉีกปาก ทำให้ได้รับบาดเจ็บ มีอาการปวดศีรษะ จากนั้นนางเฉลิมขวัญ (ยายของเด็กชายเอ) ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ ผอ.คนดังกล่าว ให้ถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป

ความคืบหน้าเช้าวันนี้ 10 กันยายน 2565 คุณยุ้ยอดีตคุณครูสอนเด็ก ที่เคยทำงานอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้เล่าให้ฟังว่า ปกติเด็กชายเอเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้า เป็นเด็กพิเศษ เขาก็เล่นในรูปแบบของเขา แต่ว่าก็ไม่ได้ไปเล่นหรือมีการกระทบกระทั่งทำร้ายเด็กคนอื่น

และในช่วงหลังเด็กชายเอ ก็รู้สึกว่าห้อง ผอ.ไม่ปลอดภัยแล้ว เด็กชายเอก็ขึ้นมาอยู่ในห้องพักครู ซึ่งดูจากอาการเด็กชายเอในตอนนั้นมีอาการหวาดกลัวไม่กล้าที่จะพบเจอคนที่มาทำร้ายและรู้สึกว่าไม่อยากไปโรงเรียน

คุณยุ้ย ยังกล่าวอีกว่า ที่ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพราะว่ารับไม่ได้กับพฤติกรรมของ ผอ.คนนี้ สำหรับเคสนี้ ก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยตรวจสอบดูแล และขอความเป็นธรรมให้กับเด็กชายเอ ผู้ที่ถูกกระทำด้วย

ด้านทนายรักษ์ อนันตรักษ์ เพ็ชรหิน ทนายผู้รับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องเรียน จึงได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ก็อย่างที่เป็นไปตามข่าวว่า เด็กชายเอที่มีลักษณะเป็นเด็กพิเศษมีพัฒนาการช้า ได้ถูกทำร้ายโดย ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ทั้งฉีกปาก และเอาหัวโขกกับผนัง 2 ครั้ง ซึ่งตรงนี้คิดว่าเด็กเองก็ได้รับความสะเทือน ทั้งในเรื่องของบาดแผลทางร่างกาย และโดยเฉพาะทางจิตใจ

และยังทราบข่าวว่าทางเด็กก็กลัวไปทั้งห้อง ก็เลยคิดว่าเมื่อได้รับการร้องเรียนขึ้นมาเราก็ใช้วิชาชีพของเราในฐานะทนายความ นำกฎหมายเข้ามาต่อสู้ เข้ามาปกป้องผู้ที่ได้รับการกระทำเช่นนี้ ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือในการดำเนินการทั้งในเรื่องของการพาเข้าไปแจ้งความ

และในวันนี้ ก็พามายื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในทีมที่มาร่วมช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นก็เป็นอดีตประธานผู้ปกครองโรงเรียนแห่งนี้ด้วย ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ โรงเรียนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่พอมี ผอ.คนใหม่เข้ามา ก็ได้เกิดเหตุดังกล่าวฯ ก็เลยรู้สึกตกใจมาก

ทนายรักษ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งในตอนนี้ ก็ไปดำเนินการแจ้งความ ก็ถือว่าเป็นคดีความแล้ว และเราก็จะไม่นิ่งนอนใจแน่นอน ในฐานะทนายความ ก็จะใช้ความรู้ในเรื่องของข้อกฎหมายให้เป็นประโยชน์สูงสุด กับผู้ที่ถูกกระทำในครั้งนี้

ตอนนี้ก็มีพยานคือน้องสาวของเด็กชายเอ แล้วก็เพื่อนอีก 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งตรงนี้เด็กก็จะให้ข้อมูลตามเหตุการณ์ที่เขาได้เห็น ก็คงจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ