เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 นายกฤษฎา ศรีเพิ่มพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 4/2565 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดลพบุรี หลังมีหนังสือแจ้งเตือนฉบับที่ 3 คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้น 350-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 0.50 - 1.00 เมตร นั้น เนื่องจากยังมีฝนตกและมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราเพิ่มมากขึ้น

โดยวันนี้ 24 ก.ค.65 เวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ 781 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สมทบกับแม่น้ำสะแกกรัง ผ่านสถานี Ct19 จังหวัดอุทัยธานี 128 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเจ้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ระดับ +16.43 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง ท้าย+8.84 เมตร และระดับน้ำทะเลปานกลาง ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 549 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 600 - 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 0.50 - 0.75 เมตร

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป