น้องปูเป้ วัย 11 ขวบ ขี่ช้างไปโรงเรียน ล่าสุดสื่อดังญี่ปุ่นติดต่อถ่ายรายการ

น้องปูเป้ วัย 11 ขวบ ขี่ช้างไปโรงเรียน ล่าสุดสื่อดังญี่ปุ่นติดต่อถ่ายรายการ

จากกรณีที่ ด.ญ.พัชราภา โยงรัมย์ หรือ น้องปูเป้ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านสำโรงพิมาน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กลายเป็นกระแสฮือฮาและโด่งดังในโลกโซเชียล หลังจากที่ นายวิศัลย์ชน โยงรัมย์ อายุ 38 ปี ผู้เป็นพ่อได้โพส์ตคลิปของลูกสาวขณะขี่ช้างที่ครอบครัวเลี้ยงไว้ชื่อพลาย โอเล่ อายุ 25 ปี ไปโรงเรียน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ประกอบกับเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันแพงพอดี จึงทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้ามาชมและติดตามเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ ก็ยังคงเห็นน้องปูเป้ขี่หลังช้างเจ้าโอเล่ ไปโรงเรียนเป็นปกติ โดยมีพ่อและแม่คอยเดินตามไปด้วย ขณะที่ชาวบ้านและครูต่างก็ชื่นชมในความสามารถของน้อง ส่วนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนต่างก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นน้องปูเป้ขี่ช้างมาเรียน อาจจะเพราะความน่ารักของเจ้าพลายโอเล่ด้วย โดยเฉพาะวันนี้พลายโอเล่ได้มาพร้อมกันพลายงามโชค ลูกชายวัย 4 ปี ที่กำลังอยู่ในวัยน่ารักและอ้อน

จากการสอบถาม น้องปูเป้ บอกว่า พ่อได้ฝึกให้ขี่ช้างมาตั้งแต่เด็กแล้ว ซึ่งตอนแรกก็กลัวเพราะยังไม่คุ้นชินกับช้าง แต่ทุกวันนี้ก็คุ้นชินและมีความผูกพันกับช้าง จึงขี่มาโรงเรียนทุกวัน ประกอบกับช่วงประหยัดค่าน้ำมันที่บ้านด้วยเพราะช่วงนี้น้ำมันแพง ซึ่งก่อนจะขึ้นขี่ช้างทุกครั้งก็จะยกมือไหว้ก่อนเพื่อเป็นการขอขมา ก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ขี่และอยู่ใกล้ช้าง ความฝันโตขึ้นอยากเป็นสัตวแพทย์จะได้ช่วยรักษาสัตว์โดยเฉพาะช้าง และก็อยากจะสืบทอดวิถีเลี้ยงช้างของครอบครัวด้วย

นายวิศัลย์ชน โยงรัมย์ พ่อน้องปูเป้ เผยว่า ได้พาน้องฝึกขี่ช้างมาตั้งแต่เด็กก่อนจะเข้าโรงเรียน จนทุกวันนี้น้องก็สามารถขึ้นขี่ช้างเองได้ จุดประสงค์หลักๆ คืออยากปลูกฝังให้น้องรู้จักวิธีการเลี้ยงช้าง อ่านใจ และสังเกตว่าช้างมีความรู้สึกยังไง

เวลาโตขึ้นน้องจะได้ช่วยดูช้างแทนพ่อได้ ส่วนที่ว่าขี่มาโรงเรียนเพื่อประหยัดน้ำมันนั้นก็เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันแพงพอดี จึงกลายเป็นกระแสฮือฮา ส่วนความฝันของน้องโตขึ้นเขาบอกว่าอยากเป็นสัตวแพทย์ เพราะเขาเป็นคนรักสัตว์อยากจะมารักษาสัตว์

ส่วนน้องจะสืบทอดการเลี้ยงช้างต่อจากพ่อแม่หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวน้องเอง แต่เท่าที่สังเกตเวลาน้องอยู่กับช้างจะดูมีความสุขมาก โดยเฉพาะเจ้าโอเล่กับลูกสาวจะมีความผูกพันกันมาเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งล่าสุดได้มีสื่อจากประเทศญี่ปุ่นติดต่อมาถ่ายทำรายการชีวิตของ น้องปูเป้ และ พลายโอเล่ ด้วย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ