เผาหลวงตา 5 ชม. ร่างยังไม่ไหม้ ผ่ามะเขือใต้โลงเลขตรงเป๊ะ

เผาหลวงตา 5 ชม. ร่างยังไม่ไหม้ ผ่ามะเขือใต้โลงเลขตรงเป๊ะ

วันที่ 26 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดวังไทรทองวนาราม หมู่ที่ 7 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้เกิดเรื่องราวสุดปาฏิหาริย์จนสร้างความฮือฮาแก่ลูกศิษย์และชาวบ้านที่มาร่วมงานพิธีบำเพ็ญกุศลร่างหลวงตาบุญตา มหามงฺคโล (แก้ว สะแสน) อายุ 64 ปี พระลูกวัดซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565

โดยในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ขณะที่กำลังทำพิธีตามประเพณีโบราณจุดไฟเผาร่างหลวงตาบนกองฟอน ปรากฏว่าเปลวไฟจากกองฟอนที่ลุกโชติช่วงได้เผาไหม้โลงจนหมดเกลี้ยง แต่ร่างของหลวงตากลับเผาไม่ไหม้จึงได้เติมเชื้อฟืนเพิ่มเข้าไปอีก

จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่า 5 ชั่วโมงก็ยังพบว่าร่างของหลวงตานั้นถูกเปลวเพลิงเผาไปได้เพียงแค่ 20-30% ของร่างกายเท่านั้นยังคงเหลือส่วนท่อนขาลำตัวและคอปรากฏให้เห็นชัดเจน กระทั่งต่อมาได้มีญาติของหลวงตานึกขึ้นได้ว่าตอนหลวงตาท่านมีชีวิตอยู่ทราบว่าท่านได้สักยันต์เป็นของรักษาไว้ที่แผ่นหลังหน้าอกและลำคอ

จึงอาจเป็นสาเหตุให้ร่างกายเผาไม่ไหม้ ต่อมาญาติและลูกศิษย์จึงได้พากันแต่งขันธ์ 5 พร้อมประกอบพิธีขอขมาต่อร่างหลวงตาและทำการเผาต่อจนร่างกายไหม้เกรียมกลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นและมาร่วมงานเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันภายในงานดังกล่าวยังมีอีกหนึ่งเรื่องราวความเชื่อของประเพณีโบราณที่จะต้องมีการทำพิธีผ่าลูกมะเขือพร้อมนำไปใส่ไว้ใต้โลง

และเมื่อจะทำพิธีเผาก็จะนำมะเขือผ่าครึ่งนั้นมาดูเลขเสี่ยงทาย ซึ่งในงานนี้ทุกคนต่างยิ่งฮือฮาเข้าไปอีกเมื่อพบว่าเลขในมะเขือผ่าครึ่งปรากฏเลขเด่นชัด 50 ซึ่งไปตรงกับเลขฝาโลงของหลวงตาพอดิบพอดี

นางบุษบา ด้วงกระยอม อายุ 56 ปี ญาติหลวงตาเล่าว่าสาเหตุที่หลวงพ่อเผาไม่ไหม้เชื่อว่าเป็นเพราะท่านสักยันต์ครอบจักรวาลไว้ที่แผ่นหลัง สักไว้เป็นของรักษา ซึ่งก่อนเผาทีแรกพากันนึกไม่ถึง

แต่พอรู้ว่าเผาไม่ไหม้จึงพากันแต่งขันธ์ 5 ขอขมาของรักษาจึงเผาร่างได้ตามความเชื่อ ส่วนพิธีการผ่าลูกมะเขือแล้วนำไปใส่ไว้ใต้โรงนั้นเป็นความเชื่อตามโบราณ อยากให้มีปาฏิหาริย์ให้โชคให้ลาภแก่ผู้มาร่วมงานจะได้ช่วยกันร่วมทำบุญ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ