จากกรณีเพลิงไหม้ ตลาดสำเพ็ง กรุงเทพฯ บริเวณแยกคิคูย่า โดยเปลวเพลิงลุกไหม้บริเวณปากซอยอย่างรุนแรง เบื้องต้นไฟไหม้อาคารบริเวณดังกล่าวเสียหาย รวมถึงรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณนั้นก็ได้รับความเสียหาย

จากการตรวจสอบเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เพลิงกำลังลุกไหม้ลามไปประมาณ 4 คูหา เป็นพื้นที่ร้านขายของ ขณะเกิดเพลิงไหม้เป็นช่วงที่พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนกำลังเดินจับจ่ายซื้อของ ทำให้ทุกคนต่างวิ่งขนของหนีไฟกันอลหม่าน

เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุมีรถยนต์ถูกเผาทำลาย 4 คัน บริเวณหน้าอาคาร 3 ชั้นที่เกิดเพลิงไหม้ นอกจากนี้ภายพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้เสียบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้อีก 9 ราย ส่งตัวไปรักษาที่รพ.กลาง แล้ว

โดย น.ส.จิตรา อัฐใจ อายุ 34 ปี ลูกจ้างร้านขายถุงพลาสติก ที่หนีตายออกจากอาคารได้อย่างหวุดหวิด เผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตรวจสอบและซ่อมแซมสายไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งพาดขนานไปกับตัวอาคารบริเวณชั้น 2 ของร้านค้าในละแวกเดียวกัน

กระทั่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเดินทางกลับไป ตนและผู้ค้าอีกหลายคนสังเกตเห็นบริเวณสายไฟที่หน้าร้านเกิดเสียงดังคล้ายไฟชอร์ต ทีแรกยังวิจารณ์กันอยู่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่พันเก็บสายไฟให้เรียบร้อย

หลังจากทำงานเสร็จหรือไม่ สักพักมีของเหลวไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งอยู่หน้าร้าน ก่อนมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้ตนต้องรีบวิ่งข้ามถนนหนีตายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นแสงเพลิงลุกลามจากหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว

ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ์ ได้รับการยืนยันพบผู้เสียชีวิต 2 ราย พบบริเวณภายในตึกที่อยู่ด้านหลังหม้อแปลงที่เกิดเหตุระเบิด จุดแรกทางขึ้นชั้น 1 พบผู้เสียบริเวณดังกล่าว 1 ราย และจุดที่ 2 บริเวณทางขึ้นชั้นที่ 2 อีก 1 ราย

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้อีก 9 ราย เบื้องต้นทราบรายละเอียดผู้เสียชีวิตว่าเป็นลูกจ้างเพศชายชื่อนายเพชรเดือน ยังไม่ทราบนามสกุล อายุ 34 ปี ชาวกัมพูชา และลูกจ้างเพศหญิงชื่อน.ส.จิรภัทร สุ่มมาก อายุ 52 ปี

ด้านนายรัฐนันท์ กิจติฤดีกุล เจ้าร้านขายถุงพลาสติก กล่าวว่าช่วงเกิดเหตุมีลูกจ้างโทรหาที่ร้านเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทำให้รู้สึกตกใจมาก จึงรีบมาที่เกิดเหตุ และรู้ว่าเป็นลูกน้อง หญิงพนักงานบัญชี 1 คน และลูกจ้างชายชาวต่างด้าวในร้าน 1 คน

ขอบคุณ khaosod