อัจฉริยะแจ้งความ หลังโดนพาดพิง ลั่นไม่รับคำขอโทษ

อัจฉริยะแจ้งความ หลังโดนพาดพิง ลั่นไม่รับคำขอโทษ

วันที่ 25 มิถุนายน 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เดินทางไปที่ สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมนำเอกสารและหลักฐานเข้าพบกับ พ.ต.ท.ประสงค์ อินเสมียน สารวัตรสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับทนายเดชา ที่ออกมาหมิ่นประมาทที่กล่าวหาว่าตนเองไปหลอกลวงแม่แตงโม ให้แต่งตั้งตัวเองเป็นทนาย

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ออกมากล่าวว่า เขาเคยไปให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนไปหลอกลวงคุณแม่พนิดา ซึ่งทุกคนก็รู้วันที่มีการแถลงข่าวกันที่กรรมาธิการคุณแม่ก็เป็นคนแถลงเอง เราก็ได้หนังสือมอบอำนาจโดยชอบ ส่วนเรื่องการที่มาพูดลอยๆ อย่างนี้และอ้างว่าคุณแม่เป็นคนพูด และมาพูดโดยไม่รับผิดชอบเราก็ใช้สิทธิ์ดำเนินคดี

จากนอกจากนี้นาย อัจฉริย อยากจะเรียนพี่ๆสื่อมวลชนตรงๆว่าเราไม่คู่ขัดแย้งกันแต่เนื่องจากว่าเมื่อคืนนี้มีช่องข่าวบันเทิงช่องหนึ่ง ได้มีการไลฟ์สดให้สัมภาษณ์ โดยมีการพาดพิงถึงครอบครัว ซึ่งคนที่สัมภาษณ์ก็ได้มีการหัวเราะเยาะเย้ย ฉะนั้นแล้วเขาต้องเป็นผู้ต้องหาร่วม การอยากได้เรตติ้งของพี่ๆสื่อมวลชนต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ใช่มาละเมิดลูกเมียผม

ผมก็ต้องขอโทษสื่อบันเทิงช่องดังกล่าวด้วย จำเป็นต้องฟ้อง เพราะผมเสียหาย ที่มากล่าวหาเมียผมกับลูกแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ ต้องแจ้งนักข่าวไว้เลยว่า ถ้าทำอีก นักข่าวช่องไหนก็แล้วแต่ ถ้าต้องการเรตติ้งคุณก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย

นอกจากนี้นายอัจฉริยะบอกอีกว่า ไม่รับคำขอโทษ ต้องกราบเท้าอย่างเดียว ในเมื่อเขาบอกว่าเสื้อเขา ตำรวจกลัวเขาทั้งประเทศ อันนี้ก็เป็นการดูถูกเหยีย-ดหยามตำรวจทั้งประเทศ เพราะว่าเขาบอกเองว่าถ้าใครซื้อเสื้อเขาไปใส่ ตำรวจทางโรงพักเกรงใจเขาหมด

ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะปล่อยให้โรงพักต่างๆทั่วประเทศ เป็นแบบที่เขาพูดไหม ใส่เสื้อแล้วไปโรงพักต่างๆ ตำรวจจะไม่กล้าดำเนินคดี ซึ่งผมกำลังพยายามดูท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องพึ่งกฎหมายไทยแล้ว ก็ใช้ศาลเตี้ยกันหมดแล้ว ในเมื่อถ้าตำรวจเลือก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ