กรณีชายรายหนึ่งเผยเรื่องราวของตัวเองผ่านติ๊กต็อก เล่าว่าในตอนนี้ตนอยู่บนดอยมูเซอ ขับรถมาจากกรุงเทพฯ 5 ชม.มาตามแฟน ซึ่งเป็นคนชนเผ่าม้ง ที่กลับบ้านมาแล้วโดนลักตัวไป ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และผลสุดท้ายแฟนสาวของเขาที่คบกันมา 2 ปีกว่า ก็ถูกพ่อแม่ของเธอยกให้แต่งงานกับคนที่พาเธอไปแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 65 นายเต๋า อายุ 26 ปี ผู้โพสต์ เล่าว่า ตนคบกับ น.ส.กุ๊กไก่ แฟนสาวมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็อยู่กินด้วยกันที่หอพักในกรุงเทพฯ วันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส.กุ๊กไก่ กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ที่ จ.เชียงใหม่ ติดต่อส่งไลน์หากันตลอด

ซึ่งตอนแรก น.ส.กุ๊กไก่ ตั้งใจว่าจะกลับบ้านแค่ 4 วัน แต่ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานในกรุงเทพติด CV19 ตัวเองต้องกักตัวต่ออีก 14 วัน กุ๊กไก่จึงตัดสินใจกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อซึ่งอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ในวันที่ 7 ม.ค. หลังจากนั้นตนยังพูดคุยกับกุ๊กไก่ตลอด ต่อมา 15 ม.ค. ได้คุยกันครั้งสุดท้ายช่วงเที่ยง กุ๊กไก่บอกว่าจะซื้อตั๋วรถทัวร์ เพื่อกลับกรุงเทพวันที่ 16 ม.ค. ช่วงเย็น แต่ก็หายไป ติดต่อไม่ได้

เวลาประมาณ 22.00 น. น้องสาวของกุ๊กไก่ที่อยู่ จ.เชียงใหม่ โทรมาบอกตนว่ากุ๊กไก่ถูกลักพาตัวไป ฝ่ายชายซึ่งอยู่คนละหมู่บ้าน บอกให้ขึ้นรถอ้างว่าจะพาไปซื้อของ ก่อนพาเข้าบ้านตัวเองโดยไม่มีใครช่วยได้ ด้วยความเป็นห่วงแฟนสาว ตนจึงโทรศัพท์ไปหาพ่อกับแม่ของกุ๊กไก่ อีกฝ่ายบอกว่าไม่ใช่การลักพาตัวไป แต่เป็นการสมยอม ตนจึงขอคุยกับกุ๊กไก่ แต่อีกฝ่ายไม่ให้คุย

หลังจากนั้นเที่ยงคืนตนตัดสินใจชวนเพื่อนและญาติรวม 18 คน ขับรถ 3 คัน ไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจะไปช่วยแฟนสาว โดยไปถึง จ.ตาก ในเวลาประมาณ 05.00 น. กุ๊กไก่แชตไลน์มาหาบอกว่าขอโทษ แต่ไม่สามารถกลับมาหาตนได้แล้ว ตนเห็นแบบนั้นก็กระวนกระวาย

จึงตามหาแฟนสาวจากพิกัดจีพีเอสในโทรศัพท์ไปที่บ้านอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.แม่สอด ซึ่งเป็นบ้านของผู้ชายที่พากุ๊กไก่ไป เมื่อไปถึงในเวลาประมาณ 08.00 น. ก็มีชาวบ้านคาดว่าเป็นญาติของฝ่ายชายออกมาบอกว่ากุ๊กไก่สมยอม ไม่ได้ลักพาตัว ตนก็ขอเจอกุ๊กไก่ หากฝ่ายหญิงบอกแบบนั้นจะกลับกรุงเทพฯ ทันที แต่อีกฝ่ายไม่ให้เจอ โดยมีกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามาไกล่เกลี่ย

จากนั้น มีการตกลงว่าจะให้ตนเจอกุ๊กไก่ได้ แต่ให้ไปรอที่ฐานปฏิบัติการทหาร ระหว่างเจอต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ตนรออยู่ประมาณ 7 ชั่วโมงยังไม่ได้เจอ จึงโทรศัพท์ไปหาพ่อของกุ๊กไก่ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที ก็มีคนพากุ๊กไก่มาให้เจอ โดยกุ๊กไก่บอกว่ารักตน แต่ก็รักผู้ชายอีกคนด้วย บอกว่าตัวเองไม่ได้ถูกลักตัวไป แต่เลือกอีกฝ่ายเอง เมื่อได้ยินแบบนั้นตนก็ตัดสินใจเดินออกมาและกลับบ้านทันที

ซึ่งกรณีที่กุ๊กไก่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กโต้กลับนั้น ตนต้องเข้าใจเรื่องที่กุ๊กไก่บอกว่าสมยอม เพราะอีกฝ่ายบอกเอง แต่เรื่องยืมเงิน ไม่ได้เป็นแบบนั้น ที่ผ่านมาอยู่ด้วยกันกุ๊กไก่ทำงานไปด้วย เรียนชั้น ปวส. ไปด้วย ตนเป็นคนซัพพอร์ตทุกอย่าง ค่าห้อง ค่ากิน รับส่งไปเรียน อาจจะไม่ได้จ่ายค่าเทอมให้ แต่ก็แบ่งเบาภาระอีกฝ่ายเยอะมาก ส่วนเงิน 10,000 บาท เป็นเงินที่กุ๊กไก่ฝากเอาไว้ ตนก็บอกไปว่าถ้าอยากได้คืนให้บอก ส่วนที่บอกว่าตนยังไม่ไปสู่ขอนั้น มีการพูดคุยกันแล้วต่อหน้าพ่อแม่ของกุ๊กไก่ว่าเมื่อกุ๊กไก่เรียนจบจะไปสู่ขอตามประเพณี ตอนนี้อยากให้เรียนหนังสือก่อน

โดยตอนนี้ตนก็อยากจบเรื่อง ต่างคนต่างอยู่ เคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย ก็ขอให้เจอคนที่ดี และอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ตนอยากขอโทษคนม้งที่ตนพูดไปด้วยอารมณ์ ไม่ได้เหมารวมประเพณีว่าไม่ดี แต่เป็นความโมโหในเรื่องที่ตัวเองเจอมาเท่านั้น

ขณะที่เฟซบุ๊กของกุ๊กไก่ เมื่อ 4 วันที่แล้วมีการแชร์ภาพงานแต่งงานของญาติ พร้อมข้อความ ตอนนี้บ้านหนูเหลือหนูคนเดียวละนะที่โตเป็นสาว ไม่มีคนมาขอซะที เห้อ ซึ่งมีการแชร์และคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์โพสต์นี้เป็นจำนวนมาก บางคอมเมนต์ระบุ ได้สามีสมใจแล้ว โดยโพสต์ล่าสุดเมื่อ 4 วันที่แล้ว แชร์ภาพน้ำตก พร้อมข้อความ ใครจะไปกับฉันมั้ย

ขณะที่แชตไลน์ที่นายเต๋าคุยกับกุ๊กไก่ ตั้งแต่ 3 ม.ค. เวลา 22.25 น. กุ๊กไก่ส่งรูปตัวเองมาให้นายเต๋าบอกว่าขึ้นเครื่องบินแล้ว จากนั้นก็คุยกันจนลงเครื่องบิน 4 ม.ค. กุ๊กไก่ไลน์มาขอเงินนายเต๋า บอกว่าจะพาน้องไปกินข้าว นายเต๋าโอนเงินไปให้ 1,000 บาท เวลา 18.25 น. กุ๊กไก่ ไลน์มาบอกว่าที่ทำงานมีคนติด CV19 ต้องกักตัว 14 วัน ไม่ต้องไปทำงาน 7 ม.ค. กุ๊กไก่ บอกว่าจะไป แม่สอด จ.ตาก พร้อมบอกว่าคิดถึงเต๋า ขอบคุณที่เข้าใจ รู้สึกโชคดีที่มีเต่าอยู่ข้าง ๆ เสมอ นอกจากนี้กุ๊กไก่ยังบอกว่าให้มารับที่แม่สอดหน่อย และทิ้งท้ายว่าหยอกเฉย ๆ

ต่อมา 15 ม.ค. เวลา 11.11 น. กุ๊กไก่แชตมาบอกว่าคิดถึงจัง นายเต๋าโทรกลับไปแต่อีกฝ่ายไม่รับ เวลา 22.40 น. นายเต๋าถามว่าทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง เกิดอะไรขึ้น 16 ม.ค. เวลา 05.02 น. กุ๊กไก่ไลน์มาบอกว่าขอโทษ ไม่สามารถคบกับเต๋าต่อได้แล้ว เนื่องจากตามประเพณีของตนไม่สามารถเดินออกจากจุดนี้ได้ ต่อไปไม่มีเธอก็ขอให้เต๋าดูแลตัวเองดี ๆ เต๋าบอกว่าจะไปช่วยและถามกุ๊กไก่ว่าสบายดีไหม อีกฝ่ายบอกว่าปลอดภัยดี

คุณภา พี่สาวของสามีน้องกุ๊กไก่ เปิดใจว่า ตนยืนยันว่าทางน้องชายของตนเองไม่ได้มีการลักพาตัวน้องกุ๊กไก่มาแน่นอน เเต่เป็นการตกลงของทั้งคู่ ที่จะตกลงปลงใจแต่งงานกัน ย้อนไปถึงวันก่อนเกิดเหตุทางน้องกุ๊กไก่และน้องชายของตน ได้นัดไปเที่ยวกัน ส่วนรายละเอียดว่าเจอกันที่ไหน รู้จักกันอย่างไรนั้น ตนไม่ทราบ

วันนั้นทางน้องชายของตนก็พาน้องกุ๊กไก่กลับมาที่บ้าน ทางน้องชายก็แจ้งว่าทั้งคู่ได้ตกลงจะแต่งงานกัน ญาติของตนเลยจัดพิธีตามประเพณีชาวม้ง แจ้งไปยังพ่อแม่ของน้องกุ๊กไก่ ผู้ใหญ่ฝั่งผู้หญิงก็ยินยอม รวมไปถึงทางน้องกุ๊กไก่เองก็ดูมีความสุข

กระทั่งวันที่ 16 มกราคม 2565 ทางผู้ชายที่อ้างว่าเป็นแฟนน้องกุ๊กไก่ พร้อมเพื่อนของเขาก็ได้เดินทางมาที่บ้าน และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป ครอบครัวของตนต้องไปแจ้งทางเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อมาช่วยไกล่เกลี่ย ส่วนกรณีที่อีกฝ่ายมาดูถูกประเพณีของชาวม้งนั้น ตนก็อยากอธิบายสังคมว่าจริง ๆ แล้วเรื่องแบบนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น ตนไม่อยากจะพูดถึงประเด็นนี้ แต่อยากจะบอกอีกฝ่ายว่าควรเคารพในความเชื่อหรือประเพณีของแต่ละฝ่าย ตนเองก็เข้าใจว่าอีกฝั่งหนึ่งก็มีประเพณีของเขา

ทั้งนี้ ตามประเพณีของชาวม้ง หากฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน ประจวบกับทางครอบครัวเห็นพ้องด้วย ไม่ผิดที่จะสามารถแต่งงานได้ แม้ว่าจะเจอกันไม่กี่วันก็ตาม หากเป็นกรณีที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ทางครอบครัวเองก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดเรียกเงินเป็นหลักแสนได้เช่นกัน

คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34