ทนายลั่น บาสตี้ หลงประเด็น หลังเอาน้องอลิส มาทำคอนเทนต์

ทนายลั่น บาสตี้ หลงประเด็น หลังเอาน้องอลิส มาทำคอนเทนต์

จากกรณีคอนเท้นต์ของ เน็ตไอดอล บาสตี้ ต่างก็มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ทนาย ร่ายยาวกฎหมายคุ้มครองเด็ก ชี้ สังคมไม่ได้รังเ กีย จที่ บาสตี้ ยูทูบเบอร์ เป็น LGBTQ+ แต่ไม่โอเคกับการเอาลูกมาทำคอนเทนต์-ทำคลิปแกล้งลูก

เป็นประเด็นให้พูดถึงกันอีกแล้วสำหรับ บาสตี้ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ที่รับน้องอลิซ ลูกของพี่สาวมาเลี้ยง แต่หลังจากนั้นบาสตี้ ก็ต้องคืนลูกให้พี่สาวไป แต่ในที่สุดเธอก็ได้ลูกกลับมาเลี้ยงเอง แต่ถึงอย่างนั้น บาสตี้ ก็มักจะมีกระแสดราม่าเรื่อย ๆ การที่ตัวเธอเองโพสต์ว่าจบ ม.3 เรียนไปทำไม หาเงินดีกว่า หรือแม้กระทั่งการที่เธอทำคอนเทนต์ที่มีน้องอลิซ เช่นคอนเทนต์แกล้งลูก ทำให้เกิดเป็นกระแสดราม่าขึ้นมาอีกครั้ง

ล่าสุด (21 พฤศจิกายน 2564) บาสตี้ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บาสตี้v2 ระบุว่า ตนเองเลี้ยงลูกมาตั้งแต่ยังเล็ๆ ซัพพอร์ตทุกอย่าง อย่าเกลียดเพราะตนเป็นสาวสอง กลัวว่าเด็กจะลำบากหรือถูกเลี้ยงมาไม่ดี ตนเลี้ยงมาดีมาก ส่วนเด็กที่ไม่มีพ่อคนนี้ เขาก็ต้องการความรักไม่ต่างอะไรจากพวกคุณเลย เขาได้รับความอบอุ่นจากตนไปไม่น้อยกว่าใคร อย่าพยายามยามเหยีย บคนอื่นที่เขาได้ดีกว่าให้จม เพราะแค่คุณไม่ชอบก็บล็อกไปแค่นั้นเอง

แต่ถึงอย่างนั้น หลายคนก็ยังรู้สึกว่าบาสตี้กำลังหลงประเด็น สิ่งที่สังคมกำลังจะสื่อสารกับบาสตี้คือการน้องอลิส มาทำคอนเทนต์ โดยที่ไม่รู้ว่าน้องยินยอมหรือไม่ แน่นอนว่าน้องตัวแค่นี้ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะยินยอมหรือไม่ยินยอม ซึ่งนั่นจะเป็นหน้าที่ของคนเป็นผู้ปกครองต้องปกป้องสิทธิของน้องตรงนี้

ด้าน เฟซบุ๊ก ทนายตัวแสบ:Badass Attorney ระบุว่า บาสตี้กำลังเข้าใจผิด ไม่มีใครรังเ กีย จ ที่เธอเป็น LGBTQ+ แต่คนไม่โอเคเพราะในคลิปที่เอาน้องมาถ่ายทำ แม้สุดท้ายจะไม่มีการแกล้งแบบที่เขียนไว้หน้าปกคลิป แต่มันก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม การนำน้องมาทำเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตนเองนั้นต้องระมัดระวังให้ดี ถึงจะเป็นบุตรที่รับเลี้ยงอย่างถูกต้องก็ตาม ตนไม่ได้ว่าบาสตี้ ตนเพียงแค่เป็นห่วงน้องอลิส

พร้อมกับระบุถึง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ดังต่อไปนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ทนายตัวแสบ:Badass Attorney, บาสตี้v2

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ