
หนุ่ม เสียภรรยาและบุตร
วันที่ 26 ตุลาคม 2564 ช่อง 3 รายงานว่า ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช มีญาติมารับศพ น.ส.นลิน การประเสริฐ อายุ 21 ปี ที่ถูกรถแท็กซี่ชนเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ซึ่งทางสามีของผู้ตายระบุว่าติดใจรถฉุกเฉินที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลช้า ต้องอยู่ในรถเกือบ 40 นาที เหตุเพราะต้องการแค่บัตรประชาชน
ภาพจาก ช่อง 3
ด้าน นายชนายุทธ เรืองศรี หรือ ปาย อายุ 22 สามี ของผู้ตายเล่าว่า วันเกิดเหตุตนและภรรยาพากันขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปกินข้าวและจะไปหาหมอเพราะภรรยามีอาการปวดท้อง แต่ระหว่างทางที่ขี่รถมาถึงสะพานตลาดบางแคก็มีสุนัขวิ่งตัดหน้ารถ ทำให้รถของตนชนกับสุนัขจนเสียหลัก จนกระเด็นออกจากรถ ตกมาเลนฝั่งซ้าย ส่วนภรรยากระเด็นตกไปอยู่ฝั่งเลนกลางด้านขวา
นายชนายุทธ เล่าอีกว่า หลังจากนั้นตนก็รีบวิ่งเพื่อพยายามจะไปช่วยดึงภรรยาออกมา แต่ระหว่างนั้นมีรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทษ-9557 กทม.สีส้ม วิ่งมาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนและลากร่างภรรยาของตนเองไปกว่า 100 เมตร และทับร่างภรรยาทั้งล้อหน้าและหลัง ก่อนที่ภรรยาจะกระเด็นหลุดออกมา แต่แท็กซี่คันดังกล่าวยังไม่ยอมหยุด ซึ่งก็มีพลเมืองดีขี่มอเตอร์ไซค์ไปขวางไว้จนคนขับแท็กซี่ถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ
นายชนายุทธ บอกว่า ต่อมาตนก็ได้พยายามเข้าไปช่วยภรรยาที่กำลังร้องครวญคราง แขนซ้ายหักผิดรูป ดั้งจมูกหัก มีรอยถลอกตามตัว เอามือกุมท้องเพราะห่วงลูกที่อยู่ในครรภ์ ต่อมามีหน่วยกู้ภัยเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่สามารถพาภรรยาส่งโรงพยาบาลได้เพราะต้องให้รถฉุกเฉินที่มีเครื่องมือช่วยชีวิตเข้าให้การช่วยเหลือ แต่พอรถฉุกเฉินมาก็พาภรรยาขึ้นรถ แต่ไม่พาไปส่งโรงพยาบาลทันที โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าหากไม่มีบัตรประชาชนก็ไม่สามารถส่งตัวได้ ทำให้ภรรยาของตนที่อาการสาหัสต้องนอนอยู่บนรถฉุกเฉินกว่า 40 นาที
ภาพจาก ช่อง 3
ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็นำตัวภรรยาส่งยังโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ์ของภรรยาตนเอง แต่เมื่อไปถึงภรรยาได้หมดลมหายใจแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามช่วยปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตภรรยาและลูกของตนเองที่อยู่ในท้องได้ จึงตั้งข้อสงสัยว่าหากรถฉุกเฉินตัดสินใจนำภรรยาของตนเองส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง อาจจะทำให้ภรรยาของตนเองไม่เสียชีวิต
ด้านนางนงนภัส ตั้งนิมิตโซค อายุ 59 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ไม่อยากให้ลูกสาวและหลานในท้องถึงแก่ความตาย แต่เมื่อถึงอายุขัยแล้วก็ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ขอให้เกิดมาเป็นลูกแม่อีก และขอเรียกร้องให้คนที่ขับรถชนลูกตนมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ระบุว่าตอนนี้คดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคล รวมถึงผลทางนิติวิทยาศาสตร์ จากนั้นจะเรียกนายชนายุทธ และคนขับรถแท็กซี่ มาให้ปากคำก่อนจะสรุปและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป สำหรับบรรยากาศในการรับศพนั้นเป็นไปอย่างโศกเศร้า ญาติของผู้ตายได้นำชาโรยในโลงศพ ก่อนที่จะปูกระดาษเงินกระดาษทอง แล้วจึงนำร่างมาบรรจุใส่โลง ตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีน ส่วนโลงศพเด็กนั้น ทางญาติได้นำของใช้เด็กมาใส่ไว้ แม่ และสามีจของผู้ตายต่างทำใจยอมรับไม่ได้
ระหว่างที่นำร่างของทารกออกมา สามีของผู้ตายถึงกับเข่าอ่อนและร้องไห้ออกมาพร้อมพูดว่า "เป็นลูกสาวจริง ๆ ด้วย" ก่อนจะเดินไปดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งตลอดการทำพิธี สามีของผู้ตายมีอาการร้องไห้เสียใจ แทบล้มทั้งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3