เป้ ไฮร็อค พอแล้วชีวิตครอบ

เป้ ไฮร็อค พอแล้วชีวิตครอบ

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเป็นอย่างดีสำหรับ นักร้องชื่อดัง เป้ ไฮร็อค เคยมียุคทองที่ประสบความสำเร็จสุดๆ ในช่วงยุค 90 สำหรับร็อกเกอร์รุ่นใหญ่อย่าง เป้ ไฮร็อค หรือ อนุวรรตน์ ทับวัง แต่ชีวิตส่วนตัวในเรื่องของครอบครัวกลับตรงกันข้าม เพราะผ่านการแต่งงาน-มีลูกมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ จนตอนนี้ขอครองตัวเป็นโสด หาความสุขใส่ตัวเองดีกว่า

ตอนนี้ผมไม่มีแฟนครับ อยู่แบบนี้มาตั้งแต่เลิกกับษา (วรรณษา ทองวิเศษ) ก็ไม่ได้คบใคร คือก็มีบ้าง กินข้าวกัน ไปดูหนังกัน แต่ว่าไม่ได้จริงจัง คบกันเป็นเพื่อนเฉยๆ แต่ถามว่าจะวาดหวังครองคู่กันไม่มีครับ ไม่ได้อยากมีคู่แล้ว เพราะอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขมากที่สุด คือเราอายุเยอะมากแล้ว อยากทำอะไรก็ได้ให้มันมีความสุขที่สุด จะไปไหนก็ได้ อยากจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ หลังๆ คืออยากทำอะไรก็ได้ให้มีความสุข คิดบวกอยู่เสมอพอแล้ว

คือบางทีมีเข้ามาเราก็บอกเขาว่าถ้ามีใครก็ไปได้เลยนะ ถ้าเกิดไปชอบใครแล้วเขารักจริงก็ไปได้เลย ไม่ต้องมาสนใจเรา 2-3 คนก็เป็นแบบนี้ เขาก็ไป แต่เราก็ยังคบกันเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกัน รู้สึกดีๆ แก่กัน ถึงเขาจะไปมีลูก ไปมีครอบครัวแล้วเราก็ยังคุยกัน ปรึกษากันได้ ชีวิตผมมีครอบครัวมา 2 ครั้งแล้ว มันเหมือนหนังม้วนเดียวกันเลย รู้สึกว่ามันไม่เวิร์กกับชีวิตเรา ทำให้ชีวิตเราจิตตก มันไม่ค่อยสมประกอบ แต่พออยู่อย่างนี้มันมีความสุขมากกว่า

สาเหตุหลักที่ทำให้ชีวิตคู่ต้องพังคือเงิน ผมว่าเป็นเพราะความเป็นอยู่มากกว่า ชีวิตคู่ผมว่ามันอยู่ที่ความพร้อมของเงิน ความพร้อมของความเป็นอยู่มากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเธอมีคนอื่น ฉันอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เกี่ยว ผมว่าเรื่องอย่างนี้มันหมดสมัยแล้ว เงินไม่พอใช้ ปัญหาเรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่น่าเบื่อมาก 2 ครั้งที่ผ่านมาเหตุการณ์เหมือนกันเลยครับ

ก็เลยไม่มีดีกว่า เบื่อครับ จะได้ไม่มีใครมาว่าเราว่ามีกิ๊กหรือเปล่า เราอะไรหรือเปล่า มันน่าเบื่อ อยู่อย่างนี้ดีกว่า เจอลูกคนแรกโดยบังเอิญ แถมลูกไม่ยอมให้กอด ลบเฟซบุ๊ก ลูกคนแรกได้เจอโดยบังเอิญครั้งนึงครับ เขาสูงมาก และเขาก็กลัวคุณแม่เขามาก ก็เลยไม่ได้ติดต่อกัน เคยมีเฟซบุ๊กเขา เขาก็ลบเราออก ผมก็เฉยๆ ลบก็ลบไป แต่ว่าคนที่สอง (น้องเซย์เดย์) ก็ยังคุยกับแม่เขาอยู่ว่าลูกเป็นยังไงบ้างแต่ก็ไม่ได้เจอ ก็ไม่ได้ซีเรียสหรอกว่าอยากจะเจอ เพราะอยู่กับแม่เขาก็ดีแล้ว เขาเลี้ยงดูแลดีกว่าเรา ปล่อยให้ชีวิตเขาเป็นอย่างนั้นดีกว่า เราอยู่อย่างนี้ชีวิตเราก็มีความสุข

ไม่ได้น้อยใจครับ ความรู้สึกแบบนี้มันไม่มีแล้ว มันผ่านมานานมากแล้ว เจอก็ได้ ไม่เจอก็ได้ ไม่ได้ซีเรียส คนแรกก็น่าจะอายุ 20 กว่าแล้วมั้งครับ ไม่เคยติดต่อกันเลย เคยติดต่อพักนึงแต่เขากลัวแม่เขา ก็เลยไม่ได้เจอกันเลย เคยเจอกันบังเอิญครั้งนึง เคยขับรถสวนกัน เขาก็เอากระจกลง ถามว่าพ่อเหรอ ก็เลยได้คุยกัน มันเหมือนไม่ได้ผูกพันกัน ผมก็บอกว่าขอกอดลูกได้ไหม แต่เขาไม่ให้กอด เพราะไม่ได้ผูกพัน ผมก็เฉยๆ ไม่ให้กอดก็ไม่กอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา และไม่ใช่ความผิดของเรา มันเป็นวิถีของพระเจ้าที่ลิขิตให้ชีวิตมนุษย์มาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับสภาพ

กับน้องเซย์เดย์ก็ไม่ได้เจอ ก็แล้วแต่เขา ถ้าโตมาแล้วเขาอยากเจอผมก็มาได้ ผมก็บอกว่าอยู่ที่นี่ เขาก็รู้ ตอนนี้ผมว่าผมมีความสุขนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม ไม่ว่าจะลำบากขนาดไหนผมไม่เคยเครียด แม้แต่ไม่มีเงินใช้ มีเงินเหลืออยู่ 200 ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าอะไรเยอะแยะไปหมด ผมไม่เคยมานอนทุกข์จะทำยังไงวะ ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่เคย แต่คิดว่าจะทำวิธีไหนถึงจะหาเงินให้ได้ ชีวิตผมคิดบวกตลอด อย่าไปซีเรียส ถ้าคนเรามันเครียดมากๆ จิตมันตกก็จะคิดอะไรไม่ออก ผมก็เลยแฮปปี้กับแบบนี้

ขอบคุณ mgronline และซีทรู

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ