ป้าช็อกครอบครัวติดโควิดเสียชีวิต 5 ราย

ป้าช็อกครอบครัวติดโควิดเสียชีวิต 5 ราย

ยังคงตามต่อกับเคสที่ฟังแล้วหลายคนอาจจะหดหู่ใจ กับสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ที่จะพูดถึงเป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในซอยเจริญราษฏร์ 1 แยก 5 เขตสาทร กทม. ที่มีสมาชิกด้วยกัน 9 คน พบว่ามีคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 ผ่านไปไม่ถึงเดือนคนในครอบครัวทยอยเสียชีวิตไปแล้ว 5 ราย โดยเรื่องดังกล่าวได้รับการตีแผ่จากคุณชัญญา บุญเกิด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตสาทร พรรคเพื่อไทย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า "พบครอบครัวหนึ่งอยู่ภายในบ้านซึ่งเป็นตึกแถว ในซอยเจริญราษฏร์ 1 แยก 5 เขตสาทร กทม. สมาชิกในบ้านติดเชื้อโควิด โดยเสียชีวิตไป 5 คน ภายในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ โดยรายเเรกเริ่มต้นเสียชีวิตในช่วงวันที่ 6 ก.ค.64 และคนสุดท้ายเพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค.64"

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว ซอยเจริญราษฏร์ 1 แยก 5 เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งภายในซอยจะเป็นลักษณะบ้านตึกแถว อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ติด ๆ กันประมาณ 100 คูหา มีคนพักอาศัยมากกว่า 80 ครัวเรือน ส่วนใหญ่จะพักกันเป็นครอบครัวใหญ่ โดยบรรยากาศภายในซอยช่วงที่ทีมข่าวลงไปพบว่าค่อนข้างเงียบเหงา ปิดประตู และไม่มีคนออกมาเดินภายนอกบ้าน บางหลังนำพลาสติกสีดำขุ่นมากั้นไว้บริเวณหน้าบ้าน หวังป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

ทั้งนี้ทีมข่าวทราบมาว่าในบริเวณซอยดังกล่าว ยังพบว่ามีคนที่ติดเชื้อโควิด-19 อีกประมาณ 3 -4 ครอบครัว ที่ยังคงรอเข้ารับการรักษา ตลอดจนที่ผ่านมาก็จะมีรถพยาบาลวิ่งเข้าออกเป็นรายวัน เนื่องจากซอยดังกล่าวจะเป็นบ้านพักอาศัยของคนชราและวัยทำงานค่อยข้างเยอะ บางคนออกไปทำงานข้างนอกแล้วนำเชื้อมาติดคนในบ้าน

ทีมข่าว มีโอกาสพูดคุยกับทางหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวดังกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ คุณตุ้ม อายุ 55 ปี หนึ่งในสมาชิกของครอบครัว กล่าวว่า ครอบครัวของตนมีทั้งหมด 9 คน แต่ขณะนี้เสียชีวิตไปแล้ว 5 คน ดังต่อไปนี้

1. คุณตุ๊ก เพศชาย อายุ 60 ปี เสียชีวิตวันที่ 6 ก.ค.64

2. คุณจ๋า เพศหญิง อายุ 72 ปี เสียชีวิตวันที่ 13 ก.ค.64

3. คุณแต เพศหญิง อายุ 52 ปี เสียชีวิตวันที่ 13 ก.ค.64

4. คุณติ๊ก เพศชาย ผู้ป่วยพิการติดเตียง อายุ 64 ปี เสียชีวิตวันที่ 16 ก.ค.64

5. คุณตุ๋ย เพศหญิง อายุ 82 ปี เสียชีวิตวันที่ 26 ก.ค.64

ขณะที่อีก 4 คน ที่ยังคงพักรักษาตัวจะประกอบไปด้วยตน ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บุษราคัม เมืองทองธานี อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีไข้ ไม่มีอาการไอ หายใจได้ปกติ ปอดไม่ได้มีอาการอักเสบ คาดว่าหากดีขึ้น น่าจะแล้วออกจากโรงพยาบาลได้ ประมาณ 3-4 วัน

ส่วนคนที่ 7 คุณเอก เพศชาย อายุ 28 ปี ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สนามเอราวัณ 3 (ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด) อาการค่อนข้างปกติ รอร่างกายแข็งแรง ไม่มีไข้หรือเชื้อลงปอด โดยคนที่ 8 น้องซูโม่ เพศชาย อายุ 11 ปี รักษาตัวที่ รพ.บางมด ไม่มีไข้หรือความผิดปกติ และคนที่ 9 คุณป้าตุ๋น เพศหญิง อายุ 78 ปี รักษาตัวหายแล้ว ออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย กลับไปพักรักษาตัวที่คอนโดฯ กับทางด้านลูกสาว

ทั้งนี้ คุณตุ้ม ยังกล่าวถึงสาเหตุของการติดเชื้อยกครอบครัวในครั้งนี้ มาจากที่พี่ชาย "คุณตุ๊ก" อายุ 60 ปี คนที่เสียชีวิตคนแรก น่าจะติดเชื้อมาจากที่ไปเดินตลาดหาซื้อของกิน หลังจากนั้นช่วงต้นเดือนมีอาการเจ็บคอ ไข้ขึ้น จึงเดินทางไปพบหมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่โรงพยาบาลกลับไม่ตรวจโควิด-19 ให้ พร้อมระบุว่าอาการน่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงให้ยาและกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน โดยที่ใช้ชีวิตตามปกติ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นโควิด-19 จึงชะล่าใจ ไม่ได้กักตัวหรือแยกโซน หลังจากนั้นช่วงวันที่ 5 ก.ค.64 อาการเขาเริ่มหนัก ตนเลยตัดสินใจนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเดิม ก่อนที่ทางทีมเเพทย์จะบอกให้ทำใจ พบว่าปอดเสียหายจากโควิด-19 ค่อนข้างเยอะ ผ่านไปไม่ถึงข้ามคืน แพทย์ก็โทรศัพท์มาแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว

หลังจากนั้นทางครอบครัวก็ได้เข้ารับการตรวจโควิด-19 ทันที และทราบผลในช่วงวันที่ 7 ก.ค.64 ซึ่งทุกคนก็เริ่มมีอาการ ทยอยทรุดเป็นรายวันจนถึงขั้นเสียชีวิตกัน 5 คน ตนยอมรับว่าค่อนข้างเสียใจ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาข่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันการ มองความผิดพลาดอาจจะมาจากที่ไม่ได้รับการคัดกรองแบบจริงจัง จึงทำให้เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายไปทั้งครอบครัว เมื่อถามถึงการใช้ชีวิตในช่วงที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้านนั้น "คุณตุ้ม" กล่าวว่า ก็จะมีเพื่อนบ้าน ตลอดจนคนรู้จักได้นำอาหารมาส่งให้เป็นมื้อ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ก็เข้ามาดูแล ในบ้านก็จะเป็น 4 ชั้น แต่จะพักอาศัยแค่ชั้น 1 กับ ชั้น 2 เพราะคนที่อยู่ภายในบ้านจะเป็นผู้สูงอายุ ไม่อยากขึ้นหลายชั้น ยกเว้นแต่พี่ชายที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง จะนอนอยู่บริเวณชั้น 2 ขณะที่คนอื่น ๆ จะนอนเรียงกันบริเวณชั้น 1 ตามมุมต่าง ๆ ของแต่ละคน

เวลา 19.13 น. ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จะมีเก้าอี 1 ตัว ตั้งไว้หน้าบ้านและวางกะละมังวางไว้ด้านบน เพื่อให้ชาวบ้านนำอาหารแต่ละมื้อมาให้ จะได้ไม่สัมผัสกันโดยตรง ซึ่งบ้านหลังใกล้เคียงก็จะนำพลาสติกสีดำขุ่นมาปิดที่หน้าประตูบ้าน เพื่อป้องกันละอองต่าง ๆ ที่อาจจะเข้าไปภายในบ้านได้ นอกจากนี้ บ้านบางหลังได้ย้ายออกไปอยู่นอกหมู่บ้าน

ชาวบ้านรายหนึ่ง ที่ยังคงพักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนมากแล้วตนก็จะไม่ไปไหน และจะอยู่เพียงแค่ในบ้านเท่านั้น ส่วนเรื่องอาหารการกินก็มีลำบากบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะสั่งไรเดอร์ให้เข้ามาส่งที่หน้าบ้าน แต่ไม่สัมผัสกันโดตยตรง ทั้งนี้ตนก็เป็นห่วงครอบครัวดังกล่าว เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้นำกล่องเสบียงกำลังใจมามอบให้กับชาวบ้าน จากการสำรวจยังไม่พบการกระจายเชื้อจากบ้านหลังหนึ่งไปติดอีกบ้านหลังหนึ่ง หรือบ้านใกล้เคียงกัน เพราะต่างคนต่างอยู่ จะไม่มีการออกมานั่งคุยกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนใหญ่ที่ติดกันคือคนในครอบครัวแพร่เชื้อติดกันเอง

ขอบคุณ ภาพข่าว คลิปข่าว เนื้อหาข่าวจากทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ