3 ทางเลือกคืนเงิน ประกันสังคม

3 ทางเลือกคืนเงิน ประกันสังคม

น.ส.บุปผา เรืองสุด ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เห็นชอบให้มีการปรับแก้กฎหมายประกันสังคมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจาย CV19 รวม 3 แนวทาง ประกอบด้วย

1. ขอเลือก รับเงินจากกองทุนบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพ จากเดิมที่กฎหมายระบุว่า หากผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมาเกินกว่า 15 ปี จะได้รับบำนาญโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ประกันตนบางส่วนต้องการเลือกใช้บำเหน็จ 2. ขอคืน เงินบางส่วนนำมาใช้ดำรงชีพ หรือนำไปลงทุนทำงานอื่น ๆ ในช่วงที่ไม่มีงานทำ หรือเกิดวิกฤตหรือเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ถูกเลิกจ้างงาน เช่น กรณีได้รับผลกระทบจาก CV19 โดยผู้ประกันตนสามารถเรียกขอใช้เงิน บางส่วน ก่อน แต่ต้องไม่มากกว่า 30% ของเงินสะสมบำหน็จบำนาญชราภาพ หรือไม่เกิน 3,000 บาท/เดือน

3. ขอกู้ โดยใช้วงเงินสะสมของผู้ประกันตนในส่วนของเงินสะสมบำเหน็จบำนาญ ช ร า ภาพมา ค้ำประกัน เงินกู้ ให้ผู้ประกันตนที่เดือดร้อน ซึ่งส่วนนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานเห็นชอบร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกันสังคมแล้ว ได้เปิด ประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็นของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในช่วงเดือน เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งองค์กรลูกจ้าง-นายจ้างเข้าร่วม ขณะเดียวกันก็ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่ปรับแก้กฎหมายพบว่า จำนวนผู้เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวมีสัดส่วนใกล้เคียงกันมากที่ 50:50 ฉะนั้นในขั้นตอนการพิจารณาและปรับแก้ไข จะต้องรอบคอบรัดกุมมากที่สุด เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ในการดูแลเยียวย าผลกระทบจาก CV19 อย่างเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม แต่ผู้ประกันตนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดิม เช่น สิทธิในการได้รับการเยียวยาว่างงาน สิทธิในการรักษาพยาบาล เป็นต้น ขั้นตอนต่อไปคือ นำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ภายในเดือน พ.ค.นี้ หากบอร์ดเห็นชอบ รมว.แรงงานจะนำเรื่องนี้เสนอที่ประชุมครม.ในเดือน มิ.ย. 2564 จากนั้นจะจัดทำร่างกฎหมายฉบับสมบูรณ์เสนอที่ประชุมสภาพิจารณา ก่อนประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

นายพนัส ไทยล้วน ประธานสภาองค์กรลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ระบุว่า ไม่เห็นด้วย ที่ สปส.จะแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม ให้ผู้ประกันตนนำเงินสมทบบำเหน็จบำนาญ ช ร า ภาพมาใช้ก่อนได้ เพราะถ้ากลุ่มผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้ไม่สูงมาก นำเงินอนาคตมาใช้ จะมีความเสี่ยงอย่างมาก

ถ้าผมเป็นบอร์ดประกันสังคม ผมไม่ให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านแน่นอน คนรุ่นใหม่ ๆ ยังไม่เข้าใจว่า ความมั่นคงทางการเงินในบั้นปลายของชีวิตมีความสำคัญมาก มองแค่เพียงต้องมีเงินใช้คล่องมือ สปส.จึงต้องให้ความรู้ผู้ประกันตน ให้เห็นความสำคัญของการเก็บออม เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายแม้ว่าไม่มีงานทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานะทางการเงินของกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 กองทุนมีเงินลงทุนสะสมรวมทั้งสิ้น 2,213,478 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินสมทบจากนายจ้าง ลูกจ้าง รัฐบาล เพื่อนำไปลงทุนสุทธิ 1,459,317 ล้านบาท กำไรจากการลงทุน 754,161 ล้านบาท มีหลักทรัพย์เสี่ยง 23% หลักทรัพย์มั่นคงสูง 77% ส่วนของเงินออมชราภาพอยู่ที่ 1,977,646 ล้านบาท ยอดเงินออมเฉลี่ยของผู้ประกันตนที่ออมไว้กับกองทุนประกันสังคม 153,475 บาท/คน โดยช่วง 3 เดือนแรกปี 2564 ผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่ 17,476 ล้านบาท ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนปี 2563 ทั้งปีอยู่ที่ 59,188 ล้านบาท

ขอบคุณข่าวจาก หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ