ครอบครัวแฝดสาม สอบติดแพทย์มหิดลทั้ง 3 คน

ครอบครัวแฝดสาม สอบติดแพทย์มหิดลทั้ง 3 คน

จากกรณีสามหนุ่มฝา แ ฝ ด สอบติดแพทย์ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับครอบครัวนี้ มีนายไพโรจน์ เข็มกลัด หรือเฮียดำ อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อ และนางสาวน้อย เกียรติมาพรศักดิ์ อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่ และลูกๆทั้งสามคนประกอบด้วย นายธนรัตน์ (ปอนด์) เข็มกลัด อายุ 18 ปี พี่ชายคนโต นายธนารักษ์ (ดอลลาร์) เข็มกลัด อายุ 18 ปี น้องคนรอง และนายธนพัฒน์ (มาร์ค) เข็มกลัด อายุ 18 ปี น้องคนเล็ก

ทั้งหมดเกิดวันเดียวกันเวลาไล่เลี่ยกันจากการผ่าคลอด เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2545 ทั้งนี้ยังมีพี่สาวอีกสองคน คนโตคือนางสาวลภัสรดา ฉัตรศิริคุณากร อายุ 41 ปี รับราชการ สำนักงาน สกสค.เพชรบุรี พี่สาวคนที่สอง นางสาวสราณี เข็มกลัด อายุ 34 ปี พนักงานธนาคารออมสิน เพชรบุรี

โดยนายไพโรจน์ ผู้เป็นพ่อได้แนะนำตัวเด็กๆทั้งสามคนให้รู้จัก ซึ่งทั้งสามคนมีชื่อเล่นเป็นสกุลเงินของต่างประเทศ คือ ปอนด์ ดอลลาร์ และมาร์ค เนื่องจากพ่อและแม่ อดีตเป็นพนักงานของธนาคารศรีนครอยู่ในอำเภอท่ายาง

สำหรับวิธีการเลี้ยงลูกนั้น นายไพโรจน์เล่าว่า เด็กๆตั้งใจเลือกคณะเอง ช่วงแรกๆลูกๆไม่ค่อยได้ตั้งใจอ่านหนังสือเท่าไร แต่ก็มีผลการเรียนดีมามาตลอดตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา พอในระดับมัธยมศึกษาได้มีการเรียนเสริมหลังเลิกเรียนเหมือนกับนักเรียนทั่วไป

ขณะนี่นางสาวน้อยผู้เป็นแม่เล่าว่า ลูกๆทั้งสามคนเกิดจากการทำอิ๊กซี่ ICSI เพราะฝ่ายพ่อมี ลู ก ย า ก ซึ่งการทำอิ๊กซี่ คือการทำเ ด็ ก ห ล อ ด แก้ว และเป็นการกระตุ้นไข่ที่มีคุณภาพมากกว่า 1 ฟอง ซึ่งจำได้ว่า เขาเลือกไข่ 4 ฟอง เมื่อฉีดเชื้อที่คัดเลือกไว้แล้วปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนก็จะสามารถเพราะเลี้ยงตัวอ่อนได้มากกว่า 1 ตัว ทำให้มีโอกาสที่เชื้อจะผสมกับไข่จนทำให้เกิดลูกแฝด ซึ่งรายของตนนั้นผสมติด 3 ฟอง จึงได้แฝดสามคน ซึ่งเกิดจากไข่คนละฟอง ทำให้เห็นได้ว่า แฝดทั้งสามคน หน้าตาและส่วนสูงแตกต่างกัน ไม่ใช่แฝดเหมือนหรือแฝดคล้ายเช่นรายอื่นๆ

พอเด็กๆเริ่มโตก็สอบถามพ่อและแม่เรื่องการเกิดของเขาว่า เกิดจากวิธีการผสมเทียมหรือการทำอิ๊กซี่ จึงทำให้เด็กๆเริ่มสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งแต่เดิมเนื่องจากพ่อและแม่ทำงานเป็นพนักงานของธนาคาร จึงแนะนำและอยากให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง จึงให้เด็กๆเรียนศิลป์ภาษา แต่ต่อมาเขาเริ่มสนใจทางการแพทย์จากกรณีการเกิดของเขา น่าจะเป็นเรื่องนี้ที่ทำให้ลูกๆทั้งสามคนหันมาเรียนสายนี้

เมื่อถามเด็กๆทั้งสามคนว่า แต่ละคนมีความคิดและอุปนิสัยอย่างไร แต่ละคนก็บอกว่า ก็คล้ายๆกัน ส่วนใหญ่ก็ต่างคนต่างคิด แต่จะคิดคล้ายๆกัน และเมื่อต้องตัดสินใจก็จะตัดสินใจไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ต้องมีการลงมติใดๆ ข้อดีก็คือที่ทุกคนเรียนชั้นเรียนเดียวกัน ห้องเรียนเดียวกัน ทำให้สามารถปรึกษากันได้ เช่นบางคนจะไม่เข้าใจในบางเรื่องบางวิชา ก็จะถามอีกสองคนที่เข้าใจ ทำให้การเรียนรู้ไปเท่าๆ กันเสริมกันและกันเป็นอย่างดี

ซึ่งพี่ชายคนโตเล่าว่า การเรียนก็อ่านหนังสือเป็นหลักแต่ก็แบ่งเวลาพักผ่อนและออกกำลังกายให้เหมาะสม ส่วนความชอบ พี่ชายคนโตชอบเล่นบาสเก็ตบอล คนกลางและคนเล็กชอบเล่นปิงปอง ท้ายสุดนายไพโรจน์ผู้เป็นพ่อเล่าถึงการสอบเข้าเรียนแพทย์ในครั้งนี้ ตนเองมีความหนักใจและห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผลการเรียนของลูกๆทั้งสามคนอยู่ในระดับดี

จึงเชื่อมั่นว่า อย่างไรต้องมีคนใดคนหนึ่งสอบติดแน่นอน ที่หนักใจก็คือว่า หากสอบติดสองคนแล้วอีกคนสอบไม่ติด นี่แหละคือปัญหา จะทำให้เด็กมีความเสียใจและน้อยใจว่าหากคนใดคนหนึ่งเกิดสอบไม่ติดขึ้นมา หวั่นวิตกมาโดยตลอด แต่โชคดีว่า เขาทั้งสามคนสอบติดทุกคนและเลือกเรียนหมอหมดทุกคน ทำให้ทั้งพ่อและแม่โล่งอกในประเด็นนี้ไปได้ ส่วนทางด้านสถานะทางครอบครัวเราเองนั้น ไม่เดือดร้อน หลังจากออกจากการทำงานธนาคาร เราก็ลงทุนสร้างมินิมาร์ท และแมนชั่นในอำเภอท่ายาง ไม่เดือดร้อน ครอบครัวช่วยกันดูแลกิจการอยู่กันอย่างมีความสุข ทั้ง 7 คน

ในขณะเดียวกันก็มีคนนำมาเปรียบเทียงกับน้องโวลต์ที่เปิดรับบริจาค แถมโป๊ะแตกจนทิพย์จนติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1

ความคิเห็นชาวโซเชียล

เดือดมาก

ทวิตยังคงขึ้นอันดับ 1

อย่างไรก็ชื่นชมความเก่งของน้องทุกๆคนครับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ