แม่วัย 28 ขังตัวเองกับลูก 5 ขวบในห้องเช่า

แม่วัย 28 ขังตัวเองกับลูก 5 ขวบในห้องเช่า

วันนี้ (3 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากญาติว่ามีหญิงคนหนึ่งขังตัวเองกับลูกน้อยในห้องเช่าแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ไม่ยอมออกจากห้อง และสามีที่ทำงานอยู่ที่ประเทศไต้หวันก็โพสต์ตามหาภรรย ากับลูก เพราะติดต่อไม่ได้มา 2 วันแล้วกลัวจะเป็นอันตราย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบห้องเช่าไม่มีเลขที่ตั้งอยู่ถนนสายบุรีรัมย์ ประโคนชัย ใกล้กับปั๊มน้ำมัน ปตท. พบประตูถูกล็อกกลอนจากข้างในห้องไม่สามารถเปิดได้ เมื่อส่องดูในห้องมืดสนิทมองไม่เห็นใคร จากการสอบถามญาติบอกว่าผู้หญิงที่เช่าห้องดังกล่าว ชื่อ น.ส.เก๋ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่จึงลองตะโกนเรียกดูมีเสียงผู้หญิงตอบกลับแต่ไม่ยอมเปิดไฟและเปิดประตู ทั้งตำรวจ และญาติก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ น.ส.เก๋ เปิดประตูนานเป็นชั่วโมง

แต่หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ยอมเปิด และไม่ยอมให้ใครเห็นหน้าแต่ได้ยินเสียงบ่นผ่านตะแกรงเหล็กออกมา พอจับจำความได้ว่าน้อยใจที่สามีซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ประเทศไต้หวันส่งเงินมาใช้น้อยตนกับลูกไม่พอกิน ทั้งหาว่าตนใช้เงินเปลือง และกลัวว่าญาติฝ่ายชายจะเอาลูกไปเลี้ยงเองด้วย จึงไม่ยอมเปิดประตูถ้าอยากจะคุยต้องให้สามีกลับจากไต้หวันมาพูดคุยเอง ตำรวจและญาติพย าย ามพูดปลอบใจว่าไม่มีใครมาแย่งลูกไปหรอก แค่แวะมาดูเพราะทุกคนเป็นห่วง แต่พูดยังไง น.ส.เก๋ ก็ไม่ยอมเปิดประตู

จากการสอบถาม น.ส.ปลา อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นน้องเมียของ น.ส.เก๋ บอกว่า ตนอยู่จ.ศรีสะเกษ ส่วนพี่ชายทำงานรับจ้างที่ประเทศไต้หวัน ก็โอนเงินมาให้ภรรยากับลูกทุกเดือนๆละประมาณหมื่นกว่าบาท แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เป็นพี่ชายโพสต์เฟซบุ๊กว่าติดต่อภรรย ากับลูกไม่ได้ ถ้าใครเห็นให้ช่วยแจ้งด้วย

เพราะเป็นห่วงลูกกับภรรย า แล้ววานให้ตนเองมาดูให้ซึ่งพอตนเดินทางมาดูที่ห้องเช่าในตัวเมืองบุรีรัมย์ พบ น.ส.เก๋ ขังตัวเองกับลูกชายวัย 5 ขวบในห้องเช่า พยายามเคาะให้เปิดประตูก็ไม่ยอมเปิดมีแต่พูดบ่นลักษณะน้อยใจพี่ชายของตนเอง และกลัวว่าทางญาติสามีจะมาเอาลูกไป ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้จะมาเอาลูกของพี่สะใภ้ แค่แวะมาดูว่าอยู่ยังไงกินยังไงเพราะเป็นห่วงทั้งพี่สะใภ้และหลาน พยายามชวนทั้งคู่ไปอยู่ด้วยที่จ.ศรีสะเกษ แต่ปฏิเสธ

อย่างไรก็ตามเมื่อมาดูแล้วเห็นว่าทั้งคู่ปลอดภัยดีก็สบายใจ แต่ไม่อยากให้ขังหลานไว้ในห้องแบบนี้ อีกทั้งหลาน 5 ขวบแล้ว อยากให้ได้เข้าเรียนเหมือนเด็กคนอื่นแต่เมื่อแม่เขาไม่ยอม ก็ไม่รู้จะทำยังไง อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยพูดคุยหรือช่วยดูแลด้วย

เพราะตนต้องกลับไปทำงานที่ จ.ศรีสะเกษ แล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของหอพักให้มาช่วยดูเพราะเกรงหญิงคนดังกล่าวจะคิดมากหรือทำอะไรที่ไม่คาดคิด

ขอบคุณ mgronline.com

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ