ก้อง ห้วยไร่ ย้อนความหลังเมื่อ 14 ปีที่แล้ว

ก้อง ห้วยไร่ ย้อนความหลังเมื่อ 14 ปีที่แล้ว

เรียกได้ว่าเป็นนักร้องอีสานที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์มากๆและยังเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือสังคมมากๆและคงปฏิเสธกันยากจริงๆ ว่าภาพจำของคนอีสานที่เห็นตามสื่อต่างๆ คือภาพของชนชั้นแรงงาน ใส่ซื่อ หรือบางครั้งก็โดนหลอก หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ ภาพของคนอีสานเป็นคนฐานะยากจน ต้องดิ้นรนสู้กับชีวิตด้วยวิถีทางต่างๆ ไปจนถึงการรับจ้างเป็นแรงงานผิดกฎหมาย หรือยุ่งเกี่ยวกับการทำไม่ดี

ซึ่งนั่นทำให้หลายครั้ง หลายๆ คนต้องพยายามปกปิดตัวตนเรื่องความเป็นคนอีสาน เพราะกลัวการถูกตัดสินก่อนที่จะได้รู้จักกันจริงๆเช่นเดียวกับที่ล่าสุด หนุ่มก้อง ห้วยไร่ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่ได้ออกมาพูดถึงความลังเลใจ ที่เมื่อ 14 ปีก่อน ที่ก้องได้เข้ามาเรียนใน กทม. และถูกมองว่า แค่เกิดมาเป็นคนอีสาน ก็เป็นรองไปแล้ว

ทั้งนี้ ก้องบอกว่า เมื่อ 14 ปีก่อน ก้องได้เข้ามาเรียนใน กทม. การจะพูดภาษาถิ่นเป็นเรื่องที่ถูกด้อยค่า ภาพจำของคนอีสานคือคนใช้แรงงาน ถูกถ่ายทอดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านสื่อต่างๆ คนอีสานมีบทบาทในภาพยนตร์และละครคือ การเป็นคนรับใช้ คนขับรถ คนใช้แรงงาน

ภาพจำของคนอีสานคือ เป็นกลุ่มคนที่ไว้รองรับคำสั่งและให้บริการ การจะพูดหรือแสดงตัวว่าเป็นคนอีสานต้องระวังตัวไว้มาก เพราะนี่คือเรื่องจริงที่เกิดกับตัวของก้องเอง จนก้องถึงกับตั้งคำถามว่า ทำไมถิ่นกำเนิดถึงมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตได้ขนาดนี้ ใครเป็นคนกำหนดให้เป็นแบบนี้ และจะต้องแก้ไขอย่างไร เพราะบุตรของตนคงจะไม่ต่างจากตน ที่ต้องดิ้นรนเข้ามาทำงานในเมือง ซึ่งนั่นคือความคิดของก้องในตอนนั้น

จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ หลายคนคงเห็นว่าภาษาอีสานเป็นภาษาที่สวยงาม เห็นได้ในสื่อทั้งเพลง ละคร ภาพยนตร์ เป็นกลุ่มที่มีบทบาททางสังคม แต่คนที่ได้สิทธินี้คือ คนที่เป็นคนดังเท่านั้น พ่อแม่พี่น้องอีกหลายคนที่เป็นคนอีสาน ยังถูกด้อยค่า ถูกกดดันทางสังคม ไม่ได้รับเกียรติในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนอีสาน

อย่าปล่อยให้ความเชื่อแบบนี้ อยู่กับสังคมเราอีกต่อไปนะครับ หนึ่งคนมีหนึ่งชีวิตเท่าเทียมกัน หนึ่งคนมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ทุกคนบนโลกเป็นแค่สิ่งมีชีวิต ที่มีไม่ต่างกัน ความเท่าเทียมกันควรบังเกิดบนโลกใบนี้ครับ

หลังจากนั้น ได้มีคนเข้ามาให้กำลังใจก้อง ห้วยไร่ อย่างมาก และมองว่าตอนนี้ทัศนคติของคนทั่วไปต่อคนอีสานดีขึ้นแล้ว แต่คนอีสานก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่ถูกยอมรับมากเท่าที่ควร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดและให้เกิดการตระหนักรู้ในสังคมไทย ให้มองคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมาจากภาคใดของประเทศก็ตาม

เรียบเรียงโดย ทีมงาน มุมข่าวบันเทิง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ